หนุ่มถูกยิงเจ็บขับกระบะหาเมียช่วย ก่อนพบความจริง ที่แท้โดนลูกหลง จากคนลักโต๊ะเหล็กล้งผลไม้ ถูกรปภ.ยิงใส่
2 มิ.ย. 2567, 15:02
เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 1 มิ.ย.67 ร.ต.อ.พิเชษฐ์ เรียบร้อย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส คนเจ็บนั่งอยู่ในรถกระบะ หน้าโรงงานทองคำปลิว ริมถนนสายนครศรีธรรมราช - ท่าศาลา ฝั่งเข้าเมือง หมู่บ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อม พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.,พ.ต.ท.จารุ เพ็ชรปาน รองผกก.(สอบสวน),พ.ต.ท.อภิรัฐ ทองฉิม รอง ผกก.สอบสวน,พ.ต.ท.วรเศรษฐ์ ศรีใหม่ รอง ผกก.สส.,,พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจตำบลท่าแพ รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซุซุ ดีแม็ค สีขาว จอดริมถนนหน้าโรงงาน โดยในรถตรงเบาะที่นั่งคนขับเบาะรอยเลือดจำนวนมาก ส่วนคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต๊กตึ้ง นำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนหน้านี้แล้ว อาการบาดเจ็บสาหัสถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าบริเวณลำตัวหน้าอกและแขนหลายแผล แต่ยังมีสติพูดจารู้เรื่อง ซึ่งแพทย์รีบนำเข้าห้องฉุกเฉิน ผ่าตัดเร่งด่วน แต่อาการยังสาหัส
จากการสอบสวนทราบผู้บาดเจ็บชื่อนายเอกลักษณ์ อายุ 33 ปี ให้การว่าอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนขับรถกระบะมาหานางพัทยา อายุ 31 ปี ภรรยาที่ทำงานโรงงาน ระหว่างทางจอดรถริมถนนสายเบญจมฯ - บางปู เพื่อปัสสาวะ ระหว่างนั้นมีคนร้าย 1 คน ขี่ รถจักรยานยนต์จอดข้างรถแล้วชักอาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่ตน 1 นัด กระสุนเจาะหน้าอก ลำตัว และแขน เลือดสาด ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นรถกระบะขับมาหาภรรยาที่ทำงานที่โรงานดังกล่าว ระยะทางประมาณ 4 กม.และเมื่อขับมาถึงริมถนนหน้าโรงงานได้โทรศัพท์ให้ภรรยาช่วยเหลือแจ้งกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล ล่าสุดแพทย์ช่วยเหลืออาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในห้องไอซียู
ต่อมาทาง พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมือง นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจที่เกิดเหตุจุดที่นายเอกลักษณ์ ผู้บาดเจ็บ อ้างว่าถูกยิงขณะยืนปัสสาวะริมถนนสายเบญจมฯ - นาพรุ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง แต่ตรวจสอบและสอบถามชาวบ้านละแวกดังกล่าวอย่างละเอียด ยืนยันว่าไม่มีใครเห็นว่ามีการยิงกันและไม่ได้ยินเสียงปืน ซึ่งทางตำรวจจะสอบสวนปากคำนายเอกลักษณ์ ผู้บาดเจ็บ อีกครั้งว่า จุดที่ถูกยิงบริเวณไหน
พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า หลังจากตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนปากคำพยานหลายปาก เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะขัดแย้งธุรกิจมืด หรืออาจขัดแย้งส่วนตัว แล้วยิงกันได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสอบสวนปากคำพยาน เพื่อหาสาเหตุการยิงครั้งนี้และเร่งติดตามตัวคนร้ายมือยิงรายนี้ต่อไป
ล่าสุดความจริงถูกเปิดเผยทราบว่า ก่อนที่นายเอกลักษณ์ จะถูกยิง เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 1 มิ.ย.67 นายเอกลักษณ์ ขับรถกระบะเข้าลักโต๊ะเหล็กในล้งผลไม้หัวสะพานบ้านน้ำขาว หมู่ 6 ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ก่อนถูกนายเล็ก อายุ 83 ปี รปภ.ดูแลล้งผลไม้ ใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงขู่ใส่
หลังเกิดเหตุทาง ร.ต.อ.วีรพงศ์ ขุนรัตน์ รอง สว.สอบสวน สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลังตำรวจ พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ศรีทอง ผกก.สภ.พรหมคีรี และตำรวจชุดสืบสวน เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ ภายในล้งรับซื้อผลไม้และสอบปากคำนายเล็ก ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคนร้าย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาทางตำรวจ สภ.พรหมคีรี ได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่า มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งตำรวจตรวจสอบแล้วเป็น นายเอกลักษณ์ คนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ในล้งผลไม้ จึงอายัดตัวไว้ดำเนินคดี
ขณะที่นายประกอบ อายุ 60 ปี เจ้าของที่ดินให้ล้งเช่า เผยว่า ก่อนหน้านี้มีคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สอนในล้งแล้ว 5 ครั่ง คาดว่าน่าจะเป็นนายเอกลักษณ์ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายนายเอกลักษณ์ เข้ามาขโมยโต๊ะเหล็กภายในล้ง ระหว่างนั้นนายเล็ก รปภ.พยายามเข้าห้าม แต่ถูกนายเอกลักษณ์ ทำท่าคล้ายจะชักอาวุธ นายเล็ก จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงใส่นายเอกลักษณ์ ผ่านกระกระจกหน้าต่างภายในล้งไป 1 นัด ก่อนที่นายเอกลักษณ์ จะวิ่งหลบหนีไป โดยที่นายเล็ก ไม่รู้ว่ากระสุนถูกนายเอกลักษณ์หรือไม่ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกล้องวงจรปิดภายในล้งบันทึกเหตุการณ์ไวอย่างชัดเจน
.