ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าที่ผ่านมา พบเจ้าของเพจ ชื่อ “KingKan KanniKar Khamsuwan”นำคลิปวีดีโอขณะขับรถยนต์มาพบช้างป่า จำนวน 2 ตัวกำลังหากินในช่วงเวลากลางคืนที่บริเวณริมถนนสาย 3199 ศรีสวัสดิ์-ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ความยาว 38 วินาทีเศษ โพสต์ลงในเฟสบุ๊ก พร้อมกับระบุข้อความเอาไว้ว่า

 

“ความยาวคลิปจริง 24.42 นาที แกไปเล่นกันตรงอื่นก่อนได้มั๊ย เราก็รีบจะไป กทม.เดินหน้ารถหาช่องไป พี่เค้าหันหลังวิ่งใส่รถเราถอยแทบไม่ทัน ใจกูไปอยู่ตาตุ่ม พอป่าไม้มายังไม่ทันจอดรถ พากันวิ่งหนีลงข้างทาง รู้งี้โทรแจ้งนานละ นั่งดูเค้าเล่นกันตกครึ่งชั่วโมง#ประเทศศรีสวัสดิ์”

 

จากคลิปดังกล่าวดูแล้วค่อนข้างหวาดเสียวและน่าตกใจแทนเจ้าของคลิป เนื่องจากระหว่างที่ช้าง 2 ตัวกำลังหากินอยู่ข้างทางนั้น ผู้โพสต์ได้พยายามเหยียบคันเร่งเพื่อไปให้พ้นช้าง แต่เสียงดังของเครื่องยนต์ทำให้ช้างตกใจ จึงหันหลังกลับแล้ววิ่งพุ่งใส่รถยนต์คันดังกล่าวอย่างน่าเกรงขาม แต่นับว่าโชคดีที่ช้างตัวดังกล่าวไม่มีพฤติกรรมดุร้าย  และนอกจากนี้จากคลิปยังพบว่าทางตรงกันข้ามมีรถยนต์อย่างน้อย 4-5 คัน ที่จอดรอดูช้างป่าทั้ง 2 ตัวอยู่

 

ทั้งนี้ นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวว่าคลิปดังกล่าวตนได้ดูแล้ว และรู้จักกับเจ้าของเฟสบุ๊กเป็นอย่างดี โดยเจ้าของเฟสเป็นลูกสาวของกำนันตำบลด่านแม่แฉลบ อ.ศรีศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี  จากการสอบถามไปยังเจ้าของเฟสบุ๊ก ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดวันนี้ (4 มิ.ย.)ระหว่างนั้นเจ้าของเฟสได้ขับรถยนต์เดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงบริเวณบ้านทางขึ้นเขาบ้านหม่องกระแทะ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ ได้พบช้างป่ากำลังเดินหากินอยู่ริมทาง ซึ่งผู้โพสต์ได้รอนานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ช้างป่าทั้ง 2 ตัวก็ยังไม่ยอมเดินกลับเข้าไปในป่า จนกระทั่งช้างเดินขึ้นไปบนเนิน ทำให้เลนถนนซ้ายว่าง จึงเหยียบคันเร่งเพื่อไปให้ทัน แต่ช้างกับตกใจวิ่งเข้าหา ตามที่ปรากฏในคลิป”นายวสันต์ กล่าวรายงานว่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แนะนำวิธีปฏิบัติเมื่อพบช้างป่าที่ออกหากินริมถนนในช่วงเวลากลางคืนและกลางวัน เอาไว้ 10 วิธี ดังนี้

     1. หยุดรถให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30 เมตร หากช้างเดินเข้าหา ให้เคลื่อนรถหนีด้วยการถอยหลังอย่างมีสติ รอจนกว่าช้างจะหลบจากถนน จึงเคลื่อนรถผ่านไป

     2. อย่าใช้แตรรถ หรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธ และตรงเข้ามาหาเราได้ เนื่องจากช้างป่า ประสาทหูจะดีมาก เสียงแตรแหลม ๆ จะทำให้ช้างตกใจและโกรธ

     3. งดการใช้แฟลชถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างตกใจ ตรงเข้ามาทำร้ายได้ และทำให้ช้างเกิดการสนใจ เดินเข้ามาหา

     4. ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ เพื่อให้สามารถเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที และเสียงเครื่องยนต์รถที่ติดเครื่องดังทุ้ม ๆ จะไม่ทำให้ช้างนั้นตกใจ ไม่เครียด และคุ้นเคย

     5. หากพบช้างในเวลากลางคืน ให้เปิดไฟรถไว้เสมอ เพื่อให้สามารถสังเกตอาการของช้างและระยะห่างระหว่างรถกับช้างได้โดยสะดวก ห้ามเปิดกะพริบ เพราะแสงจะเข้าตา และดึงดูดให้ช้างเกิดความสนใจ เดินเข้ามาหา

     6. ประสาทสัมผัสของช้างที่ดีที่สุดคือ หู จมูก และตา ถ้าดับเครื่องยนต์ ช้างจะเข้าใกล้ เพื่อใช้ประสาทสัมผัสอย่างอื่น นั่นคือการดม ดูและสัมผัส

      7. เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ตั้งสติให้มั่น หากเป็นเวลากลางคืน ให้ใช้ไฟต่ำ และอย่าเปิดไฟกะพริบ แล้วเลือกเคลื่อนรถไปในทางที่มีช้างอยู่น้อย แม้บางครั้งจำเป็นต้องเข้าใกล้หรือเบียดโขลงช้างไปก็ตาม อย่าดับเครื่องยนต์ และปิดไฟรถเป็นอันขาด ค่อยๆ เคลื่อนรถให้เสียงเครื่องยนต์นิ่งมากที่สุด และสามารถเปิดไฟสูงเปิดได้ ในกรณีที่เราอยู่ห่างจากช้างป่ามากกว่า 50 เมตรขึ้นไป เพราะจะทำให้ช้างรู้ตัวว่ามีรถมาไม่ตกใจ และเดินหลบเข้าข้างทาง ถ้าเปิดไฟสูงระยะใกล้กว่านี้แสงจะแยงตา ช้างตกใจได้

      8. ไม่ควรจอดรถดูช้าง เพราะอาจมีรถคันอื่นตามมา แล้วรถของคุณกีดขวางรถผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถูกทำร้ายแทนรถของคุณได้

      9. สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อรถจอดเรียงกันบนถนน ความสามัคคีจะต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าคันที่อยู่ใกล้ช้างหรืออยู่ไกลช้างก็ล้วนเป็นผู้ประสบเหตุทั้งสิ้น ดังนั้นหากรถคันหน้าเปิดไฟถอยรถ คันข้างหลังถัดไปก็กรุณาถอยรถอย่างมีสติ

     และ 10. ไม่ควรจอดรถแล้วลงไปถ่ายรูปช้างในระยะใกล้ เพราะอาจทำให้คุณวิ่งหนีขึ้นรถไม่ทัน ควรระลึกอยู่เสมอ ๆ ว่า โดยทั่วไปช้างมักจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวหรือฝูง ขณะที่คุณเจอช้างเพียงตัวเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีช้างตัวอื่นๆ อยู่ในบริเวณนั้น ฝูงช้างอาจจะกระจายกันหากินอยู่ในบริเวณป่าข้าง ๆ ทางนั้นก็เป็นได้ และวินาทีที่เค้าจะเข้ามาหานั้น เร็วมาก