"รัฐบาล" เพิ่มโอกาสการขายสินค้าไทยที่มีศักยภาพผ่านช่องทาง e-Commerce ขยายตลาดจากฮ่องกงสู่จีน
5 มิ.ย. 2567, 08:50
5 มิถุนายน 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก เปิดตลาดสินค้าไทยในต่างประเทศ ส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยที่มีศักยภาพไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ด้วยแนวโน้มในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดฮ่องกงและจีน ซึ่งตลาด e-Commerce ของจีน สร้างรายได้ถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2564 จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เพิ่มโอกาสทางการค้า และสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดจีนได้มากขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง ซึ่งพบว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีโนบายสนับสนุนธุรกิจฮ่องกงเข้าสู่ตลาดจีนผ่านระบบ e-Commerce ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงที่จะจัดขึ้นบนช่องทาง e-Commerce ในจีน จึงได้ใช้โอกาสนี้สนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้แสวงหาความร่วมมือกับผู้ค้าฮ่องกงที่มีช่องทางและความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย รวมทั้งเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในจีน เพื่อส่งออกและขยายตลาดสินค้าไทยที่มีศักยภาพสู่ตลาดจีนผ่านช่องทาง e-Commerce ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีมาตรการผลักดันสินค้าสู่ตลาด e-Commerce ของจีน โดยกำหนดช่องทางที่เหมาะสมให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก การจัดการปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาษี การจัดการด้านโลจิสติกส์และการบริหารคลังสินค้า เพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าฮ่องกงไปยังจีน ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะสามารถได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ เพราะตลาด e-Commerce ของจีน เป็นตลาด e-Commerce ขนาดใหญ่ที่สุด สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2564 โดยไทยสามารถใช้โอกาสจาก FTA อาเซียน-ฮ่องกงเพื่อขยายแนวทางความร่วมมือกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเพื่อรองรับการค้าและขยายตลาดสินค้าไทยสู่ประเทศจีน
“ด้วยนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่มุ่งขับเคลื่อนและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสินค้าไทยสู่ต่างประเทศ ประเมินศักยภาพตลาด รูปแบบ ช่องทางที่เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการไทยมากที่สุด โดยในการเดินทางไปเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ทั้งเพื่อเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมของ UBS AIC 2024 ที่ผ่านมา จึงพบว่าไทยและฮ่องกงมีศักยภาพ และสามารถเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าซึ่งกันและกันได้ ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสนี้ นำสินค้าไทยที่มีศักยภาพเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการฮ่องกงไปจัดจำหน่ายยังจีน เพื่อเพิ่มรายได้และโอกาสทางการค้า ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมต่อยอดและให้การสนับสนุน โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169” นายชัย กล่าว