อดีตแม่ชีวัย 85 บวช 20 ปีป่วยโรคหัวใจโต สึกแล้วยังต้องอยู่วัด-ลูกไม่รับเลี้ยง
6 มิ.ย. 2567, 10:18
บั้นปลายชีวิตของอดีตแม่ชีวัย 85 ปีถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.67 เมื่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชุมพรเดินทางไปพบนางหลิน อายุ 85 ปี อดีตแม่ชี ที่ยังใช้กุฏิสำนักวิปัสสนากรรมฐานบริเวณวัดชุมพรรังสรรค์ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นที่อยู่อาศัย
นางหลิน เล่าว่า ตนมีภูมิลำเนาเป็นคนตำบลตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร สามีได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ตนต้องเลี้ยงดูลูกท้องหมด 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ทำอาชีพค้าขายเลี้ยงและส่งลูกเรียนจนจบและต่างแยกย้ายมีครอบครัวกันหมด ตนบวชชีตอนอายุ 65 ปี และได้สึกเมื่อ 2 ปีก่อนเพราะเป็นโรคหัวใจโตและโรคความดัน แต่ยังต้องอาศัยอยู่ภายในกุฏิวัดเพราะลูกๆทั้ง 3 คนไม่รับไปอยู่ด้วย ยังโชคดีที่ทางวัดมีความเมตตาให้กุฏิไว้เป็นที่อาศัยในบั้นปลายชีวิต
โดยคนโตเป็นชายทำงานอยู่ในจังหวัดชุมพร คนกลางเป็นหญิงอยู่กรุงเทพมหานคร ทั้งสองคนไม่เคยดูแลและไม่เคยส่งเงินเลี้ยงดู ส่วนคนสุดท้องเป็นหญิงมีอาชีพค้าขายอยู่ในจังหวัดชุมพรมีภาระต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน เดือนหนึ่งจะมาเยี่ยมสักครั้งและจะยื่นเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายประมาณพันกว่าบาท และมีเงินจากเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เมื่อนักข่าวถามว่าถ้าเป็นข่าวแล้วลูกๆจะไม่ตำหนิหรอ นางหลินตอบว่าจะว่าอะไรก็ไม่ได้มาดูแลจริงๆ มาดูแลอยู่แค่คนเดียว คนอื่นเขาไม่ได้จุลเจือเขาไม่เห็นว่าแม่อยู่แบบไหน
นางหลิน เล่าอีกว่า เงินที่ได้มาส่วนใหญ่หมดไปกับค่ายาค่าเดินทางไปโรงพยาบาลส่วนเรื่องกินนั้นมีซื้อปลาทูทอดกับไข่มาทำกินก็อยู่ได้แล้ว แต่ไม่เอาข้าวจากพระเพราะแค่พระเดินบิณฑบาตได้มาแค่น้อยนิดพระก็ไม่พอฉันอยู่แล้ว ทุกวันนี้ขาไม่แข็งแรงเดินเหินก็ไม่สะดวกด้วยวัยชราต้องใช้เครื่องทุ่นแรงเป็นเก้าอีกบ้างหรือจะเป็นสี่ขาค้ำยันเวลาเดิน
นางหลิน หรือยายหลิน ยังบอกอีกว่า อยากมีเงินเพิ่มต่อเดือนแค่ 2000-3000 บาทก็พอแล้ว ไม่ต้องการอะไรมาก
สำหรับผู้ที่มีจิตเมตตาบริจาคสิ่งของสามารถเดินทางไปพบนางหลินหรือยายหลินได้ที่กุฏิสำนักวิปัสสนากรรมฐานเดินข้ามสะพานสายวัดชุมพรรังสรรค์ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ชุมพร ได้ด้วยตนเองบริจาคเงินได้ที่ นาง หลิน โทร.081-402 0462