นางแนนซี เฟเซอร์ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของเยอรมนี เปิดเผยเอกสารด้านกลาโหมจำนวน 67 หน้าต่อสาธารณชน แสดงแผนรับมือในกรณีเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)  หากพื้นที่สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน ขยายวงกว้างมาเป็นสงครามทั่วทั้งยุโรป

เยอรมนีจะใช้มาตรการต่างๆ เช่น การบังคับเกณฑ์ทหารเข้ามาเสริมกำลังทหารในกองทัพ การแบ่งสันปันส่วนอาหาร น้ำและพลังงานเช่น กระแสไฟฟ้า และใช้สถานีรถไฟใต้ดิน เป็นหลุมหลบภัย นอกจากนี้ แรงงานมีฝีมือ และคนอายุ 18 ปีขึ้นไปจะถูกบังคับให้ทำงานบางประเภทเช่น ร้านขนมปังและสำนักงานไปรษณีย์ พร้อมทั้งห้ามลาออกจากงาน ขณะที่แพทย์ นักจิตวิทยา พยาบาลและทหารผ่านศึกจะถูกสั่งให้ทำงานด้านบริหารสาธารณสุขทั้งในกองทัพและการบริการแก่พลเรือนทั่วไป

นับเป็นครั้งแรกนับแต่สิ้นยุคสงครามเย็นที่เยอรมนีจัดทำแผนรับมือกับสงครามเช่นนี้ พร้อมประเมินว่า สงครามจะมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตามปกติของชาวเยอรมนีในทุกๆด้าน อีกทั้งเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่า  เยอรมนี ซึ่งมีจุดยืนคัดค้านการใช้ปฏิบัติการทางทหาร เพื่อตัดสินปัญหาขัดแย้งต่างๆนับแต่สิ้นยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จะต้องปรับตัวเองในเรื่องนโยบายความมั่นคงและการทหารให้เหมาะสมกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน หลังรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2564

ขอบคุณ https://www.js100.com/en/site/news/view/140828