โฆษกฯ เผย! ไทยประกาศความพร้อมทำสวนยางแบบไม่ทำลายป่า ผลักดันไทยเป็นผู้ส่งออกยางพาราชั้นนำของโลก
15 มิ.ย. 2567, 10:47
วันนี้ (15 มิถุนายน 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้เข้าร่วมการประชุมโครงการห่วงโซ่คุณค่าที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า (Deforest-free Value Chains Roundtable) ซึ่งจัดโดยศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Trade Centre) องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ว่าประเทศไทยพร้อมเป็นผู้ส่งออกยางพาราชั้นนำของโลก ตามกฎระเบียบปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Free Regulation : EUDR) ของสหภาพยุโรป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการห่วงโซ่คุณค่าที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่าของ WTO มีจุดมุ่งหมายคือ เพิ่มการมีส่วนร่วมของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่ ในคณะกรรมการการค้าและสิ่งแวดล้อม (Committee on Trade and Environment : CTE) โดยระบุลำดับความสำคัญของประเทศ ด้านการค้าและความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการวิจัยและการปรึกษาหารือที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ รวมถึงมาตรการด้านสภาพภูมิอากาศที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการค้า เศรษฐกิจหมุนเวียน พลังงานทดแทน และห่วงโซ่มูลค่าที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ในการประชุมการยางแห่งประเทศไทยได้นำเสนอความก้าวหน้าของไทย ในการสร้างห่วงโซ่คุณค่ายางพาราที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ Ready for EUDR in Thailand เพื่อตรวจสอบและประเมินสินค้าอย่างละเอียดให้เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรฐาน EUDR ด้วยมาตรการที่ครอบคลุม และการกำกับดูแลที่เข้มงวด ก่อนวางจำหน่ายหรือส่งออกสินค้า โดยมีการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลผลผลิตยางของสมาชิกแต่ละรายอย่างเป็นระบบ ซึ่งใช้วิธีประมูลซื้อขายยางผ่านระบบดิจิทัล Thai Rubber Trade (TRT) ผ่านแพลตฟอร์มของ กยท. (https://trt.raot.co.th/) มีการลงทะเบียนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย และใช้เทคโนโลยี Block chain ในการทำธุรกรรม โดยระบบดิจิทัล TRT จะแสดงรายละเอียดยางที่ซื้อขายอย่างชัดเจน สามารถตรวจสอบย้อนกลับที่มาของผลผลิตยางพาราได้ 100% โดยมีเกณฑ์ที่เข้มงวดในการประเมินและจัดการความเสี่ยงจากการตัดไม้ทำลายป่า กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ให้ไปเป็นตามมาตรฐาน EUDR
“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าไทยมีศักยภาพพร้อมเป็นผู้ส่งออกยางพาราชั้นนำของโลก ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสถานะที่สำคัญของไทยในการค้าโลก รวมทั้งร่วมกันต่อสู้กับความท้าทายเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม โดยยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมผลักดันสินค้ายางพาราไทยให้เป็นไปตามกฎระเบียบ EUDR พัฒนาการจัดการระบบยางตามมาตรฐานใหม่ระดับสากล เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัวให้กับเกษตรกรชาวสวนยางไทยให้เท่าทันข้อปฏิบัติ ก้าวสู่การค้าสมัยใหม่ให้เกษตรกรชาวไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น” นายชัย กล่าว