จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. 2567 เกิดเหตุเด็กจมน้ำเสียชีวิตบริเวณสระน้ำหลังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านค้อ ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ทราบชื่อ คือ เด็กหญิงกรวิภา มณีวงษ์ หรือน้องอลิส วัย 3 ขวบ สภาพศพลอยน้ำอยู่บริเวณสระน้ำ ทางทิศใต้ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ประมาณ 800 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย และแพทย์โรงพยาบาลศรีสะเกษ ตรวจสอบชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย แต่ญาติยังข้องใจในสาเหตุการตาย โรงพยาบาลยางชุมน้อยจึงรับศพไปเพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลศรีสะเกษชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตาย

ต่อมา วันที่ 15 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านค้อ ตำบลคอนกาม อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อพบกับ นายปริญญา มณีวงษ์ อายุ 26 ปี และนางสาวพุทธมาลย์ นามจุมจัง อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ ของเด็กหญิงกรวิภา มณีวงษ์ หรือ น้องอลิส เด็กหญิง วัย 3 ขวบ ซึ่งเสียชีวิตแบบปริศนา โดย นายปริญญา และนางสาวพุทธมาลย์ พ่อและแม่ ของน้องอลิส ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูยังสถานที่ ที่พบร่างไร้วิญญาณของน้องอลิส

นายปริญญา พ่อของน้องอลิส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 เวลา 12.47 น. ผู้ใหญ่บ้านได้โทรศัพท์มาหาตนและแจ้งว่า ลูกสาวของตนได้หายตัวไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และบอกให้ตนมาตามหาลูกสาวที่หายตัวไป ตนกับภรรยาจึงรีบออกมาตามหาน้องด้วยความกังวลใจ แต่เมื่อมาถึง ก็พบกับชาวบ้านและครูจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก กำลังพากันมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงสระน้ำที่เกิดเหตุ และเมื่อตนมาถึง ก็พบกับร่างของลูกสาวของตนที่ลอยอยู่ภายในน้ำลักษณะหงายหน้า โดยกางเกงและแพมเพิร์ส ถูกถอดออกกองไว้บริเวณข้างสระน้ำ

พ่อของน้องอลิส เปิดเผยต่อไปว่า หลังจากที่ตนมาที่เกิดเหตุพบข้อสงสัยอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่ใช่รองเท้าของน้อง อีกทั้งเรื่องของเส้นทางระหว่างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และสระน้ำที่เกิดเหตุ สำหรับเด็กวัย แค่ 3 ขวบ ไม่น่าจะเดินมาได้ไกลถึงขนาดนี้ และนิสัยปกติของลูกสาวตนจะไม่ชอบเดินไปไหนไกล หรือแม้หากจะไปก็ต้องเป็นตนอุ้มพาไป ซึ่งตนมองว่า ลูกสาวของตนอาจจะไม่ได้เสียชีวิต จากการจมน้ำ แต่อาจจะเสียชีวิตจากการกระทำอื่น หรือมีคนกระทำให้เสียชีวิต และนำร่างน้องมาโยนลงสระน้ำ เพื่ออำพรางคดี และที่น่าสงสัยอีกจุดหนึ่งคือ ทำไมครูที่ดูแลเด็ก ถึงทราบว่า เด็กจะมาจมน้ำเสียชีวิตที่จุดนี้ ทั้งที่ไกลจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นอย่างมาก ตนจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถ เพราะมีข้อสงสัยหลายอย่าง ที่เกิดขึ้นกับการตายของลูกสาวตน ที่ผิดปกติ จากการเกิดอุบัติเหตุทั่วไป และ ตนจะยังไม่ดำเนินพิธีทางศาสนากับลูกสาวของตน หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเรื่องนี้

นางสาวพุทธมาลย์ แม่ของน้องอลิส เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้ จะเกิดขึ้นกับลูกสาวของตน ซึ่งเพิ่งจะจัดงานวันเกิดให้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าที่เกิดเหตุ 2-3 วัน ตนตนได้มารับลูกสาว และถามว่า โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร แต่น้องตอบกลับมาว่า อยากเป็นผี ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดมากอะไร คิดว่าเป็นการพูดคุยหยอกล้อกัน และไม่คิดว่าเรื่องร้ายจะเกิดขึ้นกับลูกของตน และเป็นไปไม่ได้ที่ลูกสาวของตนจะเดินมาได้ไกลขนาดนี้ ซึ่งตนอยากให้ผู้ที่ก่อเหตุออกมารับสารภาพในการกระทำ กับสิ่งที่เกิดเหตุขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากการตรวจสอบระหว่างจุดเกิดเหตุ กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก มีความห่างไกลกันถึง 800 เมตร และเส้นทางการเดินทางไปถึงยังจุดเสียชีวิต เป็นไปด้วยความยากลำบาก สำหรับเด็กอายุเพียง 3 ขวบ และสูงไม่ถึง 100 เซนติเมตร เริ่มตั้งแต่จุดเส้นทางการลงบันไดหลังศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเชื่อมต่อไปยัง ถนนในหมู่บ้าน มีระดับความสูงที่ลาดชัน อีกทั้งคลองชลประทาน ที่จะต้องเดินข้ามไปยังสระน้ำ ก็มีระดับความลาดชันมากเช่นกัน และเมื่อผ่านสองจุดนี้มาได้ เส้นทางระหว่างการเดินทางไปยังสระน้ำ ก็เป็นไปด้วยความลำบาก ถนนเส้นทางเต็มไปด้วยโคลน อีกทั้ง ยังเป็นทุ่งนาทั้งสองฝั่ง ซึ่งค่อนข้างจะเปลี่ยว โดยหากเดินจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปยังจุดเกิดเหตุ จะต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงจะสระน้ำส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างไกล สำหรับเด็กวัย 3 ขวบ ที่จะเดินทางไปถึงได้ โดยขณะนี้ร่างของน้องอลิส อยู่ระหว่างทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ได้ทำการสอบปากคำพ่อแม่ผู้ปกครอง และครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทั้ง 3 คนแล้ว โดยครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั้ง 3 คน ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ขณะที่ด้าน พ่อและแม่ น้องที่จมน้ำเสียชีวิต เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ คณะครูประจำศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ ทั้งหมดทุกคน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พ.ต.ท.ปัญญา โพธิขำ สารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย รับเรื่องแจ้งความในครั้งนี้