ตามรายงาน “นายกง” วัย 31 ปีจากมณฑลเจียงซี ของจีน ได้รู้จักหญิงสาววัย 28 ปีคนหนึ่งผ่านการแนะนำของแม่สื่อ หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน โดยเขาทุ่มเงินกว่า 460,000 หยวน (ราว 2,300,000 บาท) เพื่อเป็นสินสอด และหากนับรวมทองที่เคยมอบให้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดจะมีมูลค่ากว่า 600,000 หยวน ( ราว 3,000,000 บาท)

อย่างไรก็ตามงานแต่งไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เจ้าสาวไม่เพียงปฏิเสธการถ่ายรูป แต่เธอยังปฏิเสธการออกมาต้อนรับแขกภายในงานอีกด้วย และเธอยังอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อที่จะได้อยู่บ้านพ่อแม่ต่อไป โดยชีวิตหลังแต่งงานของนายกงค่อนข้างผิดปกติ เมื่อเขาอยากให้การแต่งงานเป็นไปอย่าง “สมบูรณ์” แต่ภรรยามักปฏิเสธและหาข้ออ้างกลับไปบ้านพ่อแม่ของเธอเสมอ เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังบอกว่า “ตรงนั้นของเขาใช้งานไม่ได้”

“มีหลายครั้งที่ฉันอยากนอนกับเธอ แต่เธอไม่อยากและปฏิเสธมัน” นายกงกล่าว

เพื่อตอบโต้ต่อสิ่งนี้ นายกงได้โชว์ผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาลในเซี่ยงไฮ้และผลออกมาปกติดี สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขารู้สึกว่าตนเองกำลัง “โดนหลอก” จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ

ต่อมามีหญิงสาวคนหนึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาของนายกงได้แย้งว่า “ชีวิตคู่หลังแต่งงานช่างไร้ความสุข” นอกจากสามีจะใช้ความรุนแรงในครอบครัวแล้ว เขายังบังคับให้เธอคืนค่าสินสอดอีกด้วย ด้านญาติของนายกงกล่าวว่า ภรรยาของนายกงต้องการใส่ร้ายป้ายสี และความสัมพันธ์พวกเขาค่อนข้างแปลก เป็นสามีภรรยาที่ไม่มีเบอร์ติดต่อของกันและกัน ติดต่อผ่านวีแชทเท่านั้น

ในตอนแรกพวกเขาไม่ติดใจเอาความ เพียงแค่เธอยอมคืนค่าสินสอด แต่พวกเธอกลับไม่ตอบสนองแถมยังกดบล็อก เมื่อเดินทางไปหาถึงบ้านก็ไม่พบใครเลยราวกับต้องการหนีหน้า ขณะนี้พวกเขากำลังรวบรวมข้อมูลว่า มีใครเคยเป็นตกเหยื่อโดนหลอกลักษณะเดียวกันหรือไม่ เพื่อเตรียมดำเนินคดีต่อไป

ขอบคุณที่มา ettoday