“สหรัฐฯ” เตรียมคืนโบราณวัตถุปราสาทหินพนมรุ้ง 900 ปี แก่ “ไทย”
19 มิ.ย. 2567, 12:20
นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ตามที่สถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก และกรมศิลปากรได้เผยแพร่ข่าวการจะคืนโบราณวัตถุปราสาทหินพนมรุ้ง 1 รายการ ที่อยู่ในความดูแลของสถาบันฯ คืนแก่ประเทศไทยนั้น
กระทรวงการต่างประเทศมีความยินดีอย่างยิ่งต่อเรื่องดังกล่าว โดยตั้งแต่ได้รับการทาบทามจากสถาบันศิลปะฯ ผ่านมาทางสถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก สถานกงสุลใหญ่และกรมสารนิเทศได้ร่วมกันสนับสนุนการจัดส่งข้อมูลและอำนวยความสะดวกในการติดต่อประสานงานระหว่างสถาบันศิลปะฯ กับกรมศิลปากรอย่างใกล้ชิด และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินการขั้นต่อ ๆ ไป เพื่อให้สามารถนำโบราณวัตถุคืนสู่ประเทศไทยได้โดยเร็วที่สุด
การดำเนินการข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจในการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในหลายประเทศได้ทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับกรมศิลปากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมา สามารถนำโบราณวัตถุของไทยหลายรายการกลับคืนสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ (2564) ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว (2564) ครอบพระเศียรพระพุทธรูปทองคำศิลปะล้านนา (2564) พระพุทธรูปไม้แกะสลักโบราณ จำนวน ๑๓ องค์ (2565) โบราณวัตถุบ้านเชียง (266) และล่าสุด ประติมากรรมสำริดรูปพระศิวะ หรือ "Golden Boy" และ ประติมากรรมสำริดสตรีพนมมือ (2567) เป็นต้น
สำหรับโบราณวัตถุที่ส่งคืนนั้น นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรณีสถาบันศิลปะแห่งนครชิคาโก (The Art Institute of Chicago) สหรัฐอเมริกา แจ้งความประสงค์ส่งคืนโบราณวัตถุให้กับกรมศิลปากร จำนวน 1 รายการ ได้แก่ ชิ้นส่วนเสาติดผนัง สลักจากหินทรายรูปพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ (Fragment of a Pilaster with Krishna lifting Mount Govardhana) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสถาปัตยกรรมประเภทปราสาทหิน อายุราวพุทธศตวรรษที่ 17 หรือประมาณ 900 ปี
ทั้งนี้กรมศิลปากรได้มอบหมายให้สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติตรวจสอบข้อมูลโบราณวัตถุดังกล่าว พบว่าเป็นชิ้นส่วนเสาติดผนังด้านซ้ายของกรอบประตูมณฑปด้านทิศตะวันออกของปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าถูกลักลอบนำออกไปจากประเทศไทยราวปี 2508 ก่อนที่ กรมศิลปากรจะเริ่มโครงการบูรณะปราสาทพนมรุ้ง