เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ชัยธวัช" อภิปรายงบ 68 ติงมุ่งแต่ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ตอบโจทย์แก้ปํญหาประเทศ


19 มิ.ย. 2567, 14:50



"ชัยธวัช" อภิปรายงบ 68 ติงมุ่งแต่ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ตอบโจทย์แก้ปํญหาประเทศ




วันนี้ ( 19 มิ.ย.67 ) นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า การจัดสรรงบประมาณครั้งนี้อยู่ในอำนาจเต็มของรัฐบาลไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ โดยมีการจัดสรรงบฯ เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 272,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 เป็นการเพิ่มงบประมาณในสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี โดยเฉพาะมีการวางวงเงินกู้เกือบชนเพดานเท่าที่จะกู้ได้ถึง 865,700 ล้านบาท เหลือพื้นที่กู้เพิ่มประมาณ 5,000 ล้านบาท เท่านั้น และเมื่อพิจารณารายละเอียด พบว่า รัฐบาลยังจัดสรรงบแบบมีปัญหาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเป็นการจัดสรรงบที่ไม่มียุทธศาสตร์ มองไม่เห็นเป้าหมายทางนโยบายที่ชัดเจน ยังมีความซ้ำซ้อน และไม่สนใจผลลัพธ์ทางปฏิบัติ อาทิ ในงบปี 67 มีโครงการใหม่เกิดขึ้น 236 โครงการ แต่ปีนี้มีเพียง 163 โครงการเท่านั้น ส่วนงบรายจ่ายในการลงทุนจำนวนมากเป็นรายจ่ายที่ไม่มีนัยยะสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับไปยึดโยงเครือข่ายการเมือง และกลุ่มผลประโยชน์ที่มีส่วนในการผลักดันรัฐบาลเข้าสู่อำนาจ ถือเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลใหม่ไม่มีวาระทางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แต่ละกระทรวงดำเนินงานแบบไร้ทิศทาง ต่างคนต่างทำ แม้ผู้นำรัฐบาลจะมีข้อสั่งการมาก แต่มีแนวทางมอบหมายหน่วยราชการจริงๆ หรือไม่ว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพราะวิธีการจัดสรรงบฯ ฉบับนี้ เป็นการนำโครงการเดิมที่เคยทำมาเปลี่ยนป้ายใหม่ แล้วสรุปมาเป็นภาพรวมว่าตอบสนองต่อนโยบายใหม่อย่างไรเท่านั้น ส่วนเรื่องใหม่เรื่องเดียวที่เห็นชัดเจน คือ ความพยายามผลักดันแบบดันทุรังให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จให้ได้

นายชัยธวัช กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจัดสรรอยู่ในงบกลางเป็นรายการตั้งใหม่ ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ จำนวนทั้งสิ้น 157,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 18.9 ของงบกลาง นอกจากนั้น ยังมีการคาดการณ์ว่าจะใช้เงินจาก ธ.ก.ส. อีกประมาณ 173,200 ล้านบาท และอาจมีการของบกลางปีของปี 67 เพิ่มอีก หากไม่พออาจจะออก พ.ร.บ โอนงบประมาณจากงบสำรองรายจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็นมาเพิ่มก็เป็นได้ ซึ่งภาพรวมผลของการพยายามจัดสรรงบเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด ถือเป็นความเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาทางการคลังทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาว ภาระการจ่ายหนี้ของภาครัฐสูงขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต และชัดเจนว่าประเทศจะสูญเสียพื้นที่ทางการคลัง หากจำเป็นต้องมีการใช้จ่ายฉุกเฉินจำเป็นหรือการลงทุนภาครัฐขนาดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรู้ว่ามีความเสี่ยงแต่ยังจัดสรรงบเช่นนี้ เป็นเพราะรัฐบาลชุดนี้ประสบปัญหาวิกฤตความชอบธรรมทางการเมืองจัดตั้งรัฐบาล ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศและปากท้องประชาชนให้ดีขึ้นได้ พรรคแกนนำรัฐบาลจึงเหลือความหวังเดียว คือการเชื่อว่า หากผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จได้ความชอบธรรมจะกลับมา ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง ประชาชนหวังรับเงินหมื่นมาใช้สอย แต่ปัญหาคือสภาวะปัจจุบัน ประชาชนต้องการรัฐบาลที่มีเจตจำนงผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศมากที่สุด ไม่ใช่ตอบโจทย์พรรคแกนนำรัฐบาล หากสุดท้ายโครงการดิจิทัลฯ ไม่ตอบโจทย์ การจัดสรรงบปี 68 ถือเป็นการนำเอาพรรคแกนนำมาเป็นตัวตั้ง นำทรัพยากรของประเทศมุ่งแก้วิกฤตทางการเมืองตัวเอง โดยนำเอาอนาคตของประเทศวางเป็นเดิมพันอย่างไม่รับผิดชอบ เพราะหากต้องการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ต้องเน้นการลงทุน ไม่ใช่กระตุ้นการบริโภค เน้นภาคการผลิตโดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพการผลิตในอุตสาหกรรมใหม่ ไม่ใช่หวังแค่เพิ่มนักท่องเที่ยว จากเหตุผลดังกล่าว ตนจึงไม่สามารถให้ความเห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบปี 68 ฉบับนี้ได้









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.