วันนี้ ( 19 มิ.ย.67 ) นายภูมิธรรม  เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่า ขณะนี้ การประมูลข้าวในขั้นต้นได้จบลงแล้ว ในราคา 19.07 บาทต่อกิโลกรัม ก็ถือเป็นราคาที่ดี เพราะที่ผ่านมา ข้าวในโกดังรับจำนำ บางโกดัง ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 5-7 บาท เนื่องจากมีการตีสภาพ เป็นข้าวเน่าที่ไม่มีคุณภาพ

แต่ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ตอนที่ข้าวอยู่ในโกดังมาแล้ว 10 ปี จึงได้ทำการตรวจสอบ ทั้งการทดลองชิม  และตรวจในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับความมั่นใจว่า ข้าวยังมีคุณภาพ และไม่มีสารตกค้างอย่างที่กลัวกัน เนื่องจากคุณภาพข้าว จะขึ้นอยู่กับวิธีการจัดเก็บ 

สำหรับประเด็นดราม่าเรื่องทุนจดทะเบียนของบริษัท ที่เสนอราคาสูงสุดในการประมูลข้าวนั้น ตน ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมทั้งองค์การคลังสินค้า หรือ อคส.  ตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อคลายข้อสงสัยของทุกภาคส่วนให้ได้ รวมทั้ง ประเด็นที่มองว่ามีการฮั้วกันนั้น ย้ำว่า ตนจะไม่มีการยินยอมให้มีการฮั้วกัน  หรือ การสร้างนอมินีขึ้นมา โดยอยากให้มีความโปร่งใสทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบบริษัทดังกล่าว ยังอยู่นะหว่างการพิจารณา ของคณะกรรมฯ ขายข้าว  แต่มั่นใจว่า จะทันการประกาศผลผู้ชนะการประมูลในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ เพื่อไม่ให้เวลายื้ดเยื้อออกไปอีก เพราะที่ผ่านมาเรื่องนี้เกิดดราม่า มาเป็นเวลานานแล้ว หากปล่อยเวลาไป ยิ่งจะเป็นการด้อยค่าประเทศ ด้อยค่าข้าวไทย ดังนั้น ต้องจบเรื่องนี้โดยเร็ว และต้องเป็นความสบายใจของพี่น้องประชาชน และเกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด

ส่วนกระบวนการต่อรองราคา เพื่อให้ได้ราคาเกินกิโลกรัมละ 19.07 บาท ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาของ อคส.  

โดยหลังจากได้ผู้ชนะการประมูลข้าวแล้ว ก็จะมีกระบวนการตรวจสอบ เพื่อดูแเลว่าข้าวถูกนำไปขายในประเทศ หรือ ส่งออก เพราะไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างประเทศ ก็ต้องได้รับการดูแลอย่างเต็มที่  แต่ขอให้มั่นใจ ว่า ผู้ค้าข้าว ซึ่งจะมีกระบวนการตรวจสอบและปรับปรุงข้าว ที่ได้มาตรฐานอยู่แล้ว จะต้องมีการตรวจสอบทั้งคุณภาพ หรือคุณค่าทางโภชนาการ โดยขอให้เชื่อมั่นรัฐบาลไทย ว่า เรามีสินค้าข้าว เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก จึงจะไม่ยอมให้เรื่องนี้ สร้างความเสียหายให้กับประเทศเด็ดขาด 

นอกจากนี้ อยากขอร้อง ไม่ให้มีกระบวนการด้อยค่าข้าวไทย โดยให้หยุดดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาให้เวลาตรวจสอบมามากพอแล้ว

โดยยอมรับว่า ขณะนี้ มีความสบายใจมากขึ้น หลังจากมีผู้สนใจ มาร่วมประมูลข้าว 7- 8 ราย ซึ่งมีถึง 3 ราย เสนอราคาสูง เพราะก่อนหน้านี้ที่มีความกังวลจากประเด็นดราม่าต่างๆ จึงกลัวว่าจะไม่มีผู้สนใจซื้อข้าว และแม้ราคา ที่เสนอสูงสุด จะเป็นราคาที่ดีและยอมรับได้ แต่ยังอยากเห็นราคาที่สูงกว่านี้ เพราะจะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ