เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ลูกหลานหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ จัดทอดกฐินบูรณะศาลา หลังเสี่ยกำมะลอหลอกให้ทุบทิ้ง (มีคลิป)


27 ต.ค. 2562, 14:59



ลูกหลานหลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ จัดทอดกฐินบูรณะศาลา หลังเสี่ยกำมะลอหลอกให้ทุบทิ้ง (มีคลิป)




ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีปลายปี 2561 ”เสี่ยกำมะลอ” นายธนณัฎฐ์ สิริปิยพร หรือท็อป ส่งผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ "แอ๊ด” เข้าไปยังวัดศรีเทพประดิษฐาราม เขตเทศบาลเมืองนครพนม อ้างว่าเสี่ยท็อปประสงค์จะเป็นเจ้าภาพบูรณะศาลาพระเทพสิทธาจารย์ ในวงเงิน 30 ล้านบาท โดยว่าจ้างบริษัทธาดา คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งสำนักงานอยู่ที่อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง ปรากฏว่าผู้รับเหมาได้สั่งอุปกรณ์ในการก่อสร้างมาไว้เรียบร้อย แล้วขอเบิกเงินจากเสี่ยท็อป ก็โดนบ่ายเบี่ยงมาตลอด

     ขณะเดียวกันหญิงที่ชื่อ แอ๊ด ได้มาพูดคุยกับพระศรีวิสุทธินายก (พระมหาโดม ปัญญาธโร ป.ธ.9) เจ้าคณะจังหวัดนครพนม (ธ) / เจ้าอาวาสวัดศรีเทพฯ เพื่อจะขอเปิดบัญชีส่วนตัวในนามชื่อของเสี่ยท๊อป อ้างเพื่อสะดวกในการขอรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา แต่เจ้าอาวาสเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะทางวัดก็มีบัญชีกลางอยู่แล้ว โดยมีสรรพากรพื้นที่นครพนมดูแลอยู่แล้ว ทำให้หญิงคนนั้นไม่พอใจขับรถออกจากวัดไป และไม่กลับเข้ามาอีกเลย ขณะผู้รับเหมาหลังไม่ได้เงินจากเสี่ยท็อปแม้แต่บาทเดียว ก็ได้บอกยกเลิกสัญญา แล้วขนอุปกรณ์กลับสำนักงาน มีบางส่วนที่ยังเหลือทิ้งไว้ด้านหลังศาลาดังกล่าว ซึ่งพระลูกวัดรูปหนึ่งเผยว่าทางวัดยังโชคดีที่ไม่ยอมทำตามเสี่ยท็อปที่ให้ทุบศาลาเดิมทิ้งทั้งหลัง จะมีเพียงประตูที่ได้รื้อออกเพื่อเตรียมบูรณะเท่านั้น

     ซึ่งปัจจุบันเสี่ยท็อปถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 6 เดือน ในข้อหากระทำความผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางปี 2557 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาปลายปี 2559 แต่เสี่ยท็อปไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง จำคุก 1 ปี ให้การรับสารภาพอันเป็นประโยชน์จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับออกหมายจับไว้

     ล่าสุด วันที่ 27 ตุลาคม กลุ่มลูกหลานหลวงปู่จันทร์ เขมิโย ตระกูลสุวรรณมาโจ และทายาทอดีตเจ้าเมืองนครพนม ได้รวบรวมคหบดีในจังหวัดนครพนม สมทบทุนเพื่อบูรณะศาลาพระเทพสิทธาจารย์ ( หลวงปู่จันทร์ เขมิโย มหาเถระ สุวรรณมาโจ ) ที่เกือบจะถูกเสี่ยท็อปสั่งทุบทิ้งให้เหลือแต่ซาก ด้วยการจัดทอดกฐินสามัคคีขึ้น

     นายณรงค์ ไชยตา ผู้สืบเชื้อสายพระพนมนครานุรักษ์อดีตเจ้าเมืองนครพนม เปิดเผยว่าหลังทราบข่าวเสี่ยท็อปมาอ้างเป็นเจ้าภาพปรับปรุงศาลาพระเทพสิทธาจารย์ แล้วจะเปิดบัญชีรับบริจาค เมื่อไม่ได้ตามที่ตั้งใจก็ทิ้งปัญหาไว้ กลุ่มลูกหลานหลวงปู่จันทร์จึงจัดกฐินสามัคคีขึ้น เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะ ซึ่งในการนี้มีนายเดชา ศิริรัตน์ คหบดีชื่อดังรับเป็นประธานกรรมการ ทอดถวายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งญาติโยมที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถร่วมทำบุญโดยโอนปัจจัยเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพจำกัด สาขานครพนม เลขบัญชี 3064913399 ชื่อบัญชีวัดศรีเทพประดิษฐาราม

   ตามประวัติ วัดศรีเทพประดิษฐาราม มีนามเดิมว่าวัดศรีคุณเมือง เล่าสืบต่อกันมาว่าสร้างขึ้นในสมัยของรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเจ้าเมืองสามเดือนราชบุตรของพระบรมราชา (มัง) ซึ่งเป็นเจ้าเมืองนครพนมในสมัยนั้น เป็นประธานชักชวนพุทธศาสนิกชนจัดสร้างขึ้น มีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 4 ไร่เศษ ตามสภาพของวัดในสมัยนั้นทำให้สันนิษฐานได้ว่าผู้สร้างมีความมุ่งหมายจะให้เป็นอรัญวาสี เป็นสถานที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสามเณรฝ่ายวิปัสสนาธุระ เพราะสถานที่ตั้งวัดด้านทิศเหนือ ด้านทิศใต้และด้านทิศตะวันตกติดกับชายป่าใหญ่ที่รกรุงรัง มีต้นไม้น้อยใหญ่เกิดขึ้นหนาทึบ แม้กลางวันก็มืดมองไม่เห็นดวงตะวัน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เสือโคร่งเป็นต้น บางครั้งเสือก็จะออกมาจากป่าและดักจับสัตว์เลี้ยงต่างๆ ของชาวบ้าน มี วัว ควาย นำเข้าไปกินในป่าทึบเสมอ

     มีข้อสันนิษฐานเพิ่มเติมว่า ความเชื่อคนในสมัยนั้นถือกันว่า การสร้างวัดจัดเป็นงานมหากุศล ผู้ใดหรือสกุลใดมีทุนรอนสามารถจัดสร้างวัดขึ้นได้ จะมีคนนับหน้าถือตาเคารพยกย่อง จึงถือกันว่าวัดที่สร้างขึ้นจะตกเป็นวัดของผู้นั้นหรือสกุลนั้น  เพราะฉะนั้นวัดในเมืองนครพนมจึงมีขึ้นมากมาย  นับได้มีถึง 18 แห่ง คือ 1. วัดโอกาส  2. วัดโพธิ์ศรี  3. วัดกลาง 4. วัดมหาธาตุ 5. วัดพระอินทร์แปลง 6. วัดศรีเทพฯ 7. วัดอรัญญิกาวาส 8. วัดศรีบุญเรือง 9. วัดสว่างสุวรรณาราม 10. วัดกกต้อง 11. วัดป่าศรีสมพร 12. วัดสารภาณนิมิต 13. วัดธาตุฝุ่น 14. วัดน้อยโพธ์คำ 15. วัดศิริพุทธาราม 16. วัดทุ่งประชานาถ 17. วัดไตรรัตน์ฯ 18. วัดป่ามงคลสันติสุข และยังมีวัดอื่นๆ อีกมาก



เมื่อเจ้าสามเดือนสร้างวัดศรีคุณเมืองขึ้นแล้ว ได้ทำการปลดปล่อยพวกทาสในเรือนให้เป็นไท และอนุญาตให้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรอยู่ดูแลรักษาวัด ต่อมาวัดศรีคุณเมืองนี้ได้กลายเป็นแหล่งประสิทธิ์ประสาทคุณประโยชน์น้อยใหญ่ ทั้งด้านพุทธจักร และอาณาจักรมากมาย แต่วัดศรีคุณเมืองนี้จะมีเจ้าอาวาสปกครองสืบมาแล้วกี่รูปก็ไม่ปรากฏหลักฐาน เมื่อกาลเวลาผ่านไป วัดศรีคุณเมืองก็ร่วงโรยลงไปตามสภาพ ชำรุดทรุดโทรมแตกสลายไปในที่สุด เพราะขาดพระภิกษุสามเณรผู้คอยดูแลรักษา เมื่อขาดผู้ดูแลต้นไม้เถาวัลย์ก็งอกขึ้นรกรุงรังเต็มไปหมด

     ด้วยความเป็นป่ารกทึบ จึงมีสัตว์ร้ายอย่างเสือโคร่งออกจากป่าจับสัตว์เลี้ยงของชาวเมืองไปกินประจำ จึงไม่มีใครกล้าเดินผ่านไปมา ต่อมา พระยาสุนทรเทพกิจจานุรักษ์ ข้าหลวงประจำจังหวัดนครพนมในสมัยนั้น จึงอนุญาตให้ยกสถานีตำรวจมาตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆวัดทางด้านทิศตะวันออก เพื่ออารักขาช่วยปราบปรามสัตว์มิให้มาทำอันตราย

     กระทั่ง พ.ศ.2460 วัดศรีคุณเมืองก็ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดศรีเทพประดิษฐาราม ซึ่งพระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ เป็นผู้ขอเปลี่ยนแปลง โดยให้คงคำว่าศรี อันเป็นพยางค์หน้าของชื่อวัดเดิมไว้ต่อเข้ากับคำว่าเทพ ซึ่งเป็นคำพยางหนคาง ในราชทินนามของพระยาสุนทรเทพกิจจานุรักษ์ จึงเป็น “ศรีเทพ” แล้วต่อท้ายด้วยคำว่า “ประดิษฐาราม” เพื่อเป็นเครื่องหมายให้ทราบว่า คณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติกนิกายได้มาก่อตัวขึ้นจำเพาะที่วัดศรีเทพประดิษฐารามจังหวัดนครพนมแห่งนี้ เจ้าอาวาสรูปแรกในชื่อวัดศรีเทพฯ ก็คือหลวงปู่จันทร์ เขมิโย ผู้เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2502  ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ "พระเทพสิทธาจารย์” และภายหลังกลายเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังลำดับหนึ่งของจังหวัดนครพนม วัตถุมงคลเป็นที่แสวงหาของเซียนพระในปัจจุบันมาก

     นอกจากหลวงปู่จันทร์แล้ว ภายในโบสถ์มีพระประธานที่ศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อพระแสง จากการบอกเล่าของพระราชสุทธาจารย์ (พรหมมา โชติโก) เจ้าอาวาสวัดศรีเทพฯรูปที่ 2 ว่า สร้างโดยพระราชธิดาในพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง มีทั้งหมด 4 องค์ คือ 1. พระเสริม 2. พระสุก 3. พระใส และ 4. พระแสง จนมาถึงสมัยที่เจ้าอนุวงศ์เวียงจันทร์หนีข้าศึกล่องลงไปทางใต้ โดยนำพระสุกและพระแสงลงไปด้วย ปรากฏว่าเรือที่พระสุกประดิษฐานอยู่ได้จมลงที่เวินพระสุก ในเขตอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เจ้าอนุวงศ์จึงได้นำแต่พระแสงมาจนถึงเมืองนครพนม ด้วยการนำไปซ่อนไว้ในถ้ำเมืองมหาชัยก่องแก้ว แขวงคำม่วน ประเทศลาว ต่อมาทางกรุงเทพฯ สืบทราบ จึงให้เจ้าเมืองนครพนมนำส่งไปยังมหานคร แต่เกวียนที่นำไปเกิดล้อหัก แม้จะเปลี่ยนเกวียนเล่มใหม่ก็เป็นเช่นเดิม จึงอัญเชิญประดิษฐานไว้ที่วัดป่า ต่อมาจึงย้ายมาที่วัดศรีเทพฯ จวบจนปัจจุบันนี้

     ชาวเมืองนครพนมมีคติความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้องว่าหลวงพ่อพระแสงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อเกิดเหตุเภทภัยฟ้าฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านจะทำพิธีบนบานต่อหลวงพ่อพระแสง โดยมีการจัดไหลเรือไฟถวายเพื่อให้ฝนตก โดยทางวัดศรีเทพฯเปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้านมัสการพระแสงได้ เฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ และวันพระเท่านั้น







Recommend News
















©2018 ONBNEWS. All rights reserved.