วันนี้ ( 27 มิ.ย.67 ) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกะทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์  เปิดตัวโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ มอบสัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน” แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน และบริหารจัดการที่ดินราชพัสดุให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดยจะนำที่ดินราชพัสดุในความครอบครองของส่วนราชการ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า กว่า 7,000 ไร่ มาปล่อยเช่าให้ประชาชน กว่า 1,900 ราย ใช้เป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ด้วยอัตราค่าเช่าต่ำและผ่อนปรน

โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งการมอบสัญญาเช่าที่ดินจะเกิดขึ้นใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา 248 ไร่ จ.เชียงราย 273 ไร่ จ.เชียงใหม่ 281 ไร่ จ.นครสวรรค์ 1,120 ไร่ จ.นครพนม 661 ไร่ จ.กาฬสินธุ์ 1,174 ไร่ จ.ปัตตานี 29 ไร่ จ.ราชบุรี 1,500 ไร่ และจ.สุราษฎร์ธานี 2,100 ไร่

สำหรับอัตราค่าเช่าที่ดินจะมี ค่าเช่าต่ำและผ่อน  แบ่งออกเป็น ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย หากไม่เกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.25 บาทต่อตารางวาต่อเดือน หากเกิน 100 ตารางวา อัตราเช่า 0.50 บาทต่อตารางวาต่อเดือน และหากเป็นที่ดินเพื่อการเกษตร เนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาทต่อไร่ต่อปี และหากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาทปีไร่ต่อปี โดยเป็นสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการเช่าของกรมที่ดินให้กับประชาชน แต่สามารถขอเป็นสัญญาเช่า 30 ปีได้

สำหรับเกณฑ์ของผู้ที่ได้รับสิทธิเช่าที่ดินตามโครงการนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ครอบครองหรืออยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวมาก่อน ปี 2546 และพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้มีบ้านอยู่อาศัยหรือทำการเกษตรบนที่ดินดังกล่าวจริง และห้ามปล่อยเช่า หรือขายช่วงสัญญาที่ดินให้ผู้อื่น

ผลการดำเนินการของโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้มอบที่ดินให้ประชาชนแล้วเนื้อที่ 3.38 แสนไร่ จำนวน 1.34 แสนราย เหลือที่ต้องบริหารจัดการอีก 6 แสนไร่

ที่ดินเพื่อเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันกรมธนารักษ์ จัดเก็บรายได้ส่วนนี้ได้เฉลี่ย 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยหลักเกณฑ์การเช่าที่ดินส่วนนี้จะพิจารณาผลตอบแทนจากการเช่าที่ดินให้สอดคล้องกับมูลค่าที่แท้จริงของที่ดินแปลงนั้นๆในอัตราปัจจุบัน และมีผลตอบแทนเฉลี่ยอย่างน้อย 3% ต่อปี

ส่วนสัญญาเช่าที่ดินของสวนราชการ ก็จะมีการทบทวนและเรียกคืนที่ดิน โดยหลักเกณฑ์ เป็นที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี , ที่ดินที่ถูกกลุ่มคนบุกรุก, และที่ดินที่ไม่มีแผนดำเนินการต่อเนื่องในอนาคต