สะพานกลับรถแคบที่สุดในประเทศ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
2 ก.ค. 2567, 17:01
วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณหมู่1-หมู่5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยจะทำการปิดเส้นทางที่เป็นทางสัญจรหลักของรถจักยานยนต์ที่ประชาชนชาวปากท่อ และอำเภอใกล้เคียงใช้สัญจรเป็นทางเชื่อมที่สามารถไป ตลาด ไปส่งนักเรียน ไปธนาคาร ไปโรงพยาบาลและโรงพัก ซึ่งจะทำการปิดเส้นทางดังกล่าวในวันที่10 มิถุนายน และให้ไปใช้สะพานลอยที่พึ่งสร้างเสร็จ ซึ่งประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ยอมเพราะสะพานลอยที่สร้างออกแบบมา รถไม่สามารถสวนทางกันได้ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมาที่สะพานข้ามทางรถไฟดังกล่าว ซึ่งประชาชนที่ให้ถนนเส้นนี้กันทุกวันได้มีการทดสอบขับรถขึ้นให้ดู ก็เป็นไปตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมาเพราะสะพานฝั่งขาขึ้นและฝั่งขาลงไม่สามารถขันสวนกันได้ มีขนาดความกว้างที่แคบมาก และรถจักยานยนต์ที่ขับขึ้นสะพาน พอถึงทางเลี้ยงหักศอกกลางสะพาน ก็ไม่สามารถตีวงเลี้ยวได้ เพราะทำทางแคบเกินไป บ้างคันถึงกับต้องจอดกลางสะพานตรงหัวโค้งเพื่อที่จะยกรถเลี้ยวและขับขึ้นสะพานอย่างทุลักทุเล และเป็นทั้งสองฝั่ง ต้องยกรถเลี้ยวทั้งขาขึ้นและขาลงแทบจะทุกคัน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายจีรวัฒน์ ธนวัฒน์ ซึ่งเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ได้ใช้ถนนเส้นนี้เป็นประจำทุกวัน นายจีรวัฒน์ ธนวัฒน์ เล่าว่า สะพานนี้สร้างไม่ได้เรื่องเลย ลองใช้ดูแล้วก่อนที่เขาจะปิดในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ หลังจากใช้ดูคือไม่สามารถเลี้ยวกลับรถช่วงกลางสะพานได้ เหมาะสำหรับให้คนเดินข้ามมากกว่า และรถก็ไม่สามารถสวนกันได้ ถ้าฝั่งนี้จะขึ้น อีกฝั่งที่ขึ้นมากฌต้องจอดรอด้านบนสะพานให้รถฝั่งนี้ขึ้นไปถึงและรถอีกฝั่งถึงจะลงมาได้ ซึ่งมองถึงความเป็นจริงแล้ว ช่วงเวลาเร่งรีบตอนเช้าและหลังเลิกเรียน รถจะเยอะมากแล้วต่างคนต่างขึ้นสะพาน ต้องมานั่งจอดรอที่บนสะพานเพราะรถสวนกันไม่ได้และต้องนั่งลุ้นอีกว่าคันนี้จะเลี้ยงพ้นไหม ต้องลงไปช่วยยกเลี้ยงไหม ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้แน่ๆที่จะมาใช้สะพานที่สร้างแบบแคบขนาดนี้น่าจะเป็นที่แรกในโลกที่แคบขนาดนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ ไม่รู้ว่าออกแบบกันมายังไง กล่าวปิดท้าย”คนทำไม่ได้ใช้ ส่วนคนใช้ไม่ได้ทำ” และผู้ใช้รถอีกคนคือ นางใจ กล่าวว่า อยากให้แก้ไข้ให้ทะสะพานให้กว้างกว่านี้ ให้ส่ามารถเลี้ยวได้และวิ่งสวนกันได้สะดวก แยกเลนไปเลยทางขึ้นและลงให้ชัดเจนอยากให้แก้ไขโดยเร็วเพราะจุดนี้เป็นจุดใหญ่ เป็นทางผ่านของทั้งอำเภอและคนพื้นที่ข้างเคียงก็ให้เส้นนี้ส่วนใหญ่ถ้าปิดทางข้ามด้านล่างให้มาใช้สะพานอันนี้โดยที่ไม่ได้แก้ไข ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากๆแน่นอน และมีคุณป้าที่ขายของอยู่ตรงสะพาน(ไม่ขอเปิดชื่อ) กล่าวว่า ถ้าปิดทางหลักที่ให้สัญจรอยู่ในขณะนี้ ชาวบ้านจะลำบากกันแน่เพราะรถที่ใช้ไม่ใช่จำนวนน้อย วันๆหนึ่งวิ่งผ่านเส้นนี้กันนับพันคัน และสะพานก็แคบมาก เลี้ยงก็ลำบากมากและเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วย ซึ่งสะพานข้ามทางรถไฟที่เขาสร้างให้รถจักยานยนต์ใช้สะหลับข้างทางรถไฟทางคู่ ที่อื่นๆเขาก็สร้างกันไม่แคบขนาดนี้แต่ที่นี้แคบมากเกินไป จึงอยากให้มาแก้ไข้สะพานให้กลับรถได้และมาความปลอดภัยมากกว่านี้
ซึ่งชาวบ้านทุกคนที่ได้ใช้ถนนเส้นนี้อยู่ประจำก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขอวอนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสะพานอันนี้ ให้มาตรวจสอบแก้ไข้ให้สามารถใช้งานได้จริงและมีปลอดภัย โดยเร็วที่สุดเพราะชาวบ้านที่สัญจรถนนเส้นนี้ถ้าปิดขึ้นมาชาวบ้านทุกคนเดือดร้อนกันแน่นอน