เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
3 ก.ค. 2567, 17:52
วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวONBnewsรายงานว่า เกษตรกรในพื้นที่ หลายอำเภอ จังหวัดพะเยา ไม่เห็นด้วยกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งของรัฐบาลเพราะเป็นการไม่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำนาที่แท้จริง โดยระบุ โครงการดังกล่าวอาจจะมีการได้ประโยชน์ของกลุ่มนายทุนและขณะนี้เกษตรกรก็ไม่มีเงินทุนที่จะไปลงทะเบียนคนละครึ่ง ในการซื้อปุ๋ยเพราะที่ผ่านมาเกษตรกรจะใช้วิธีการซื้อปุ๋ยเงินผ่อนหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้วก็จะนำเงินไปให้กับร้านค้า
เกษตรกรจำนวนมากในพื้นที่อำเภอภูกามยาว และอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ต่างก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในการไม่เห็นด้วยกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งของรัฐบาล ที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการผลิตข้าวนาปีในปีนี้ โดยระบุว่า โครงการดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนและคาดว่าจะมีการทุจริตเป็นอย่างมาก และประกอบกับเกษตรกรช่วงนี้ ไม่มีเงินทุนที่จะนำเงินในส่วนของครึ่งที่ชาวนาต้องลงทะเบียนก่อน ซึ่งจากการที่ทำนาข้าวแต่ละปีที่ผ่านมานั้นเกษตรกรจะใช้วิธีการซื้อปุ๋ยจากร้านค้าด้วยการผ่อนระยะยาว ซึ่งหลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตและนำผลผลิตออกจำหน่ายแล้วถึงจะจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการขายปุ๋ย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ลำบากมากหากเกษตรกรต้องนำเงินส่วนที่เป็นครึ่งของเกษตรกรไปลงทะเบียนก่อน
นายโกสินทร์ ศรีบรรเทา เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ระบุว่าในส่วนของโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านไม่เห็นด้วยเนื่องจากว่าต้องผลักภาระหนี้สินให้กับเกษตรกร เนื่องจากเกษตรกรต้องนำเงินไปวางกับร้านค้าก่อน ในส่วนของครึ่งที่เป็นของชาวนา ซึ่งปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจก็ไม่ดีอยู่แล้วจึงทำให้เป็นภาระในส่วนของโครงการเก่าที่สนับสนุนไร่ละ 1000 บาทนั้น ชาวบ้านยังคงมีหลักประกันที่จะนำไปใช้ซื้อปุ๋ยโดยการเชื่อกับร้านค้ามาก่อน จากนั้นพอเก็บเกี่ยว ก็นำไปชำระซึ่งตรงนี้เกษตรกรก็สามารถที่จะบริหารจัดการได้เอง ซึ่งโครงการปุ๋ยคงเหลือครึ่งนั้นไม่แน่ใจว่าผลประโยชน์จะตกอยู่กับผู้ใด
สัมภาษณ์... นายโกสินทร์ ศรีบรรเทา เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ขณะที่นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ เกษตรกรผู้ทำนา ในพื้นที่ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา กล่าวว่าในส่วนของโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น ในส่วนของตนเองนั้นไม่ใช่ว่าไม่เห็นด้วยแต่ว่ารัฐบาลควรจะมองศักยภาพของเกษตรกรในช่วงนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจก็ไม่ดี ซึ่งหากจะนำเงินส่วนที่เป็นครึ่งหนึ่งของเกษตรกรวางให้กับร้านค้าก่อนเกษตรกรในขณะนี้นั้นคงไม่มีศักยภาพ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับตนเองมองว่ารัฐบาลควรจะส่งเสริมในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิตส่งเสริมให้ จิตรกรทำการเกษตรแบบอินทรีย์ ซึ่งในส่วนของตนเองนั้นจากโครงการไร่ละ 1000 ตนเองก็ยังได้รับประโยชน์อยู่ แต่หากว่าการลงทะเบียนปุ๋ยคนละครึ่งนั้นตนเองคงจะไม่เข้าร่วม เพราะทุกวันนี้ตนเองก็ทำเกษตรลักษณะอินทรีย์ โดยผลิตปุ๋ยใช้เองซึ่งก็ให้ผลผลิตที่เป็นที่พอใจ ในส่วนของโครงการนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่มองว่าอาจจะมีการที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการหรือไม่ ตรงนี้เกษตรกรก็ยังมีความกังวลอยู่
สัมภาษณ์... นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ เกษตรกรในพื้นที่ตำบลดงเจน อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา