ผู้สื่อข่าว ONB news เดินทางไปพบกับ คุณ วิภา  น้าสาว คุณเกศราพร และคุณกฤตพร เจ้าของร้านกาแฟและหมูกระทะ พบกับทางน้าสาวและหลานๆ ที่เปิดร้านบอกรู้สึกตกใจหลังจากที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นข่าวนายทุนบุกยึดพื้นที่ ตามที่นางสมบูรณ์  อายุ 73 ปี และนางนารี อายุ 73 ปี กล่าวและเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง โดยแจ้งกับสื่อมวลชนฯ ว่าตนเองไม่ชานายทุนอะไร แค่เป็นชาวบ้านอยู่ในพื้นที่มาร่วมกับญาติพี่น้องลูกหลานมารวมกันปรับปรุงพื้นที่บริเวณดังกล่าว ทำการค้าขายเลี้ยงชีพไปวันๆ เท่านั้น

โดยหลังที่ตกเป็นข่าวแม่และน้า เป็นญาติผู้ใหญ่ทราบข่าวถึงกับตกใจมากๆ ว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ผู้ร้องทั้ง 2 ไม่ใช่ใครเป็นเพื่อนบ้านในระแวกใกล้กัน ซึ่งเมื่อประมาณปี 2534 ได้มีการขอยืมเงินจากทางมารดาไปแล้วก็ทำเอกสารหนังสัญญา กันไว้ว่าจะมอบที่ดินแปลงดังกล่าว จำนวน 2 แปลง ให้ ซึ่งในอดีตบริเวณดังกล่าวเป็นป่าเหวลึกรกทึบ เมื่อลูกหลานเรียนจบได้มาก็มาบุกเบิกปรับปรุงพื้นที่จนเป็นอย่างที่เห็นหมดไปเยอะมากๆ แล้วเปิดเป็นร้านกาแฟและหมูกะทระ แล้วจู่ๆ นางสมบูรณ์ อายุ 73 ปี และนางนารี อายุ 73 ปี ยายทั้ง 2 ก็ได้ไปร้องกับหลายหน่วยงานว่า มีการบุกรุกที่ดินของตนเอง ทั้งๆ ที่มีการลงนามเอกสารการลืมเงินกันแล้วยินยอมนำที่ดินทั้ง 2 แปลง ดังกล่าวกันไว้อย่างถูกต้อง

ในเรื่องนี้คุณวิภา  บัวเกศ  น้าสาว ของคุณ เกศราพร  ชุนโต หรือออฟ  เล่าถึงปัญหาที่ตกเป็นข่าวว่า ตนเองได้อยู่ทำมาหากินสืบทอดต่อกันมา พร้อมกับลูกหลานสถานที่เข้าตั้งร้านกาแฟ และหมูกะทระ เป็นคนดั่งเดิมอยู่ในพื้นที่ โดยไม่เคยไปก้าวร้าวใดๆ กับนางสมบูรณ์ อายุ 73 ปี และนางนารี อายุ 73 ปี ยายทั้ง 2 แล้วทำไมต้องมาเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งกัน ก็ขอให้การทำเช่นนี้กลับไปหายังคนที่กระทำผิดจริงๆแล้วกัน ตนไม่ได้กระทำผิดไม่ขอรับเรื่องนี้ เรื่องที่ดินแปลงนี้คนที่ขายสิทธิให้เวลานี้นอนติดเตียงไปแล้ว แต่ก็มีบุตรหลานเขาเป็นพยานได้ทุกคน จะทำอะไรขอให้คิดถึงความเป็นจริงกันบ้าง ทำอะไรก็ต้องรู้แก่ใจกันบ้าง หากไม่เชื่อสามารถไปสอบถามผู้นำท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่ได้เลย

ส่วนคุณ กฤตพร  หลานสาวที่ร่วมเปิดร้านกาแฟอยู่ในพื้นที่ได้กล่าวว่า กรณีที่มีการร้องสื่อว่าไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่ได้เนื่องจากสุนัขดุ นั้นไม่ได้เป็นเรื่องจริง เพราะสุนัขที่ตนเองเลี้ยงเป็นสายพันธ์ที่ชอบเห่า ไม่ได้ดุร้ายตามทีเป็นข่าว และเมื่อเปิดร้านค้าขายหากเลี้ยงสุนัขดุๆ คงไม่ได้ และเราจะลงทุนปรับปรุงไปมากกว่านี้ก็ต้องเกรงใจทางกรมธนารักษ์ เพราะพื้นที่เราได้เช่ากับทางกรมชลประทานมาตลอด หากทำอะไรมากไปมันก็ไม่ดี และจะไม่โกรธให้อภัยเพราะเราไม่ได้กระทำอะไรผิด ไม่ได้คตโกงใคร จะเผาพริกเผาเกลือเราก็ไม่ได้รับ ใครกระทำก็ขอให้รับตรงนั้นกลับไป เราคนทำมาหากินอย่างสุจริต ต้องขอขอบคุณสื่อที่ยังเปิดโอกาสให้พื้นที่ตรงนี้ให้กับพวกตนได้สามารถชี้แจงปัญหาทั้งหมดนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นตรงนี้...คุณ เกศราพร หรือออฟ  กล่าวทิ้งท้าย