ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี จัดพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
10 ก.ค. 2567, 06:02
วันนี้ 9 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ณ วัดสิริกาญจนราม ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรี ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช เนื่องในอภิลักขิตสมัย 200 ปี นับแต่ทรงพระผนวช โดยมี พระเทพเมธาภรณ์ (ประสงค์ วราสโย) เจ้าอาวาสวัดสิริกาญจนาราม เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี (ธรรมยุต) พร้อมด้วย นางสาวรังสิมา ละธนันท์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดกาญจนบุรี นายศิริชัย พลการ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีฯ
โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระมหากรุณาให้การจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ในโอกาสที่ทรงผนวชครบ 200 ปี อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระหว่างวันที่ 6 - 7 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช อีกทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ พ.ศ. 2399 เมื่อพระชนมายุได้ 47 พรรษา
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงเป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ประสูติเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 14 ค่ำ ปีชวด จุลศักราช 1166 ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 20 พรรษา ในปี พ.ศ. 2367 ได้ทรงผนวชและทรงได้รับสมณนามฉายาจากพระอุปัชฌาชย์ว่า วชิรญาโณ ทรงเจริญในสมณเพศอยู่นานถึง 26 ปี ทรงขึ้นครองราชสมบัติในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2394 มีพระนามว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงเป็นนักโหราศาสตร์ ทรงแต่งตำราทางโหราศาสตร์ที่เรียกว่า “เศษพระจอมเกล้า” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตำราที่ได้รับการยอมรับว่าแม่นยำ และทรงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติว่าทรงเป็น “พระบิดาแห่งโหราศาสตร์ไทย"