รองโฆษกฯ ขอสังคมอย่าใช้วิธีคิดด้วยการดูแคลนคนอื่น ทุกคนเสมอภาคกันภายใต้กฎหมายเดียวกัน
10 ก.ค. 2567, 10:21
วันนี้ (10 กรกฎาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่นักศึกษาที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ได้สอบแข่งขันเพื่อเข้ารับราชการครูในตำแหน่งครูผู้ช่วย สามารถสอบได้ลำดับที่ 1 จำนวน 40 คน ทางมหาวิทยาลัยฯ ได้ชื่นชมและแสดงความยินดี ซึ่งเป็นเรื่องที่สถาบันการศึกษาควรทำ แต่กลับมีคนกล่าวหาว่า ข้อสอบรั่วหรือไม่ เพราะจังหวัดบุรีรัมย์มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอยู่จังหวัดนี้ แถมยังเลยเถิดไปกล่าวหาถึงว่าเพราะจังหวัดบุรีรัมย์มีสมาชิกวุฒิสภาถึง 14 คน มีการล็อบบี้ฮั้วกันทั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ กำลังตรวจสอบ ยังไม่มีบทสรุปว่าเป็นจริงตามที่มีคนกล่าวหา
นายคารม กล่าวต่อว่า วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่มองคนอื่นเลวหมด พวกฉัน อาชีพฉัน คนบ้านฉันดีคนเดียว แถมยังดูแคลนไปถึงอาชีพคนที่ลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา ว่ามีอาชีพเป็นดีเจงานศพ มีอาชีพขับรถ มีอาชีพที่ไม่ชื่อเสียง ไม่มีเกียรติ ซึ่งหลายคนลืมไปว่า คนบางคนเขาอาจไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอาชีพที่ใหญ่โต ไม่ใช่พ่อค้าร่ำรวย ไม่ใช่อดีตข้าราชการใหญ่ แต่คนเหล่านี้เขาก็มีเกียรติ มีความสามารถ เขาจึงได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา และอาชีพของเขาก็เป็นอาชีพที่ระเบียบของ กกต. กำหนดไว้ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นคนที่กล่าวหา นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ที่เขาสอบเข้าทำงาน เพื่อจะไปเป็นครู ไปสอนเด็ก กลับมากล่าวหาเขาทุจริต แบบไร้ความรับผิดชอบถือว่าขาดวุฒิภาวะ ขาดความเมตตาธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์พึงมี หากคิดอีกมุมหนึ่ง ทำไมไม่คิดถึงว่า ครอบครัวเขาอาจทุ่มเท ส่งเสียลูกหลานเขามาเพื่อจบแล้วจะได้มีงานทำ ความจริงเขาอาจเป็นครูที่ดี และมีโอกาสมาสอนลูกหลานท่านก็ได้ และอาจมาสอนลูกหลานท่านให้เป็นคนดีก็ได้ อีกทั้งเด็กเหล่านี้ เขาอาจมีครอบครัวที่ยากจน แต่เขาใช้ความพยายามในการเรียน และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ก็มีหลักสูตรการเรียนการสอนถึง 5 ปี ที่ทำให้เด็กเหล่านี้เก่งได้ เพราะฉะนั้น คนที่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยการกล่าวหา แบบไร้หลักฐาน มีแต่จินตนาการ และด้อยค่าคนอื่น สมควรถูกประณาม
คนเก่งในต่างจังหวัดมีแทบทุกจังหวัดไม่ใช่เฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ เช่น นักเรียนของโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย จังหวัดร้อยเอ็ด สามารถสอบเข้าติดคณะแพทยศาสตร์ ได้เกือบทั้งชั้นเรียน แต่จังหวัดร้อยเอ็ดก็ไม่ได้มีคนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อว. แต่อย่างใด แต่อาจเป็นเพราะเด็กเขาเรียนเก่ง และครูสอนดีจังหวัดบุรีรัมย์ ก็มีคนมีชื่อเสียง หรือคนเก่งหลายคน หลากหลายอาชีพ เช่น ชัชชุอร นักกีฬาวอลเล่ย์บอล หรือ “ลิซ่า” ชุปเปอร์สตาร์สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
“ผมจำได้ว่าในช่วงที่ผมเรียนกฎหมาย ประธานศาลฎีกาชื่อนายภิญโญ ธีรนิติ ก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม เพราะฉะนั้นการวิพากษ์วิจารณ์ประชาชนในชาติด้วยกันแบบนี้ จึงไม่มีผลดีอะไร มีแต่สร้างความแตกแยก ถ้ามีตรรกะวิบัติแบบนี้ คนในสังคมใช้วิธีคิดแบบนี้ กล่าวหาคนอื่น และด้อยค่าคนอื่น มองคนไม่เท่าเทียมกันแบบนี้ สังคมจะอยู่ได้หรือ” นายคารม ย้ำ