เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 12กค.2567 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช(หลังเก่า) ได้มีกลุ่มเจ้าของเรือประมงพาณิชย์ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและตัวแทนจำนวนหลายสิบคนได้เดินทางมาขอพบกับนายขจรเกียรติ   รักพานิชมณี ผวจ.นครศรีธรรมราช เพื่อยื่นหนังสือทวงถามเงินเยี่ยวยาจากรัฐบาลกรณีขายเรือประมงนอกระบบให้กับรัฐบาล ไปยังรัฐบาลว่าจะได้เงินเยียวยาเมื่อไหร่ ซึ่งปรากฏว่านายขจรเกียรติฯไม่อยู่ติดราชการที่กทม. จะมอบหมายให้นายศรีธรรม  ราชแก้ว รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ลงมาพบและรับหนังสือจากชาวประมงแทน

โดยกลุ่มชาวประมงจำนวนมากที่เดินทางมาในวันนี้ได้มีการเขียนป้ายข้อความใส่กระดาษหลายข้อความเช่น”รอรัฐบาลจนหนี้สินรุงรังเมื่อไหร่จะจ่ายเงินเยียวยาให้ชาวประมง” “สัญญารัฐบาลเกือบ10ปี พวกเราชาวประมงรอคำตอบอยู่” “ชาวประมงแบกรับหนี้สินไม่ไหว” เป็นต้น  

จากนั้นได้มีนางสาวจันทร์ยา แก่นคำ อายุ 48ปี ตัวแทนชาวประมงได้ยื่นหนังสือกับนายศรีธรรม ราชแก้ว รอง ผวจ.นครศรีธรรมราช ผ่านไปยังรัฐบาลมีข้อความว่า เรื่องทวงถามเร่งรัดการดำเนินโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ  ด้วยตัวแทนสมาชิกผู้ประกอบการธุรกิจเรือประมงที่ได้เข้าร่วมโครงการนำเรือออกนอกระบบของรัฐบาล ตามโครงการรับซื้อเรือคืน ขอทวงถามเร่งรัดติดตามโครงการดังกล่าว ตามที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับผู้ประกอบการธุรกิจเรือประมง ซึ่งขณะนี้ได้เกิดความล่าช้ากว่ากรอบระยะเวลาตามที่ควรจะได้เป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่ปี2558 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้เงินเยียวยาจากรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว ทั้งๆที่ผ่านขั้นตอนสำรวจและขั้นตอนต่างๆของรัฐบาลครบหมดแล้วมานานแล้ว โดยในส่วนเรือประมงของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่เข้าโครงการนี้จำนวน72ลำ แต่ปรากฏว่ายังไม่ได้รับเงินแม้แต่ลำเดียวเลย ทำให้เป็นภาระของเจ้าของเรือประมงทั้ง72ลำที่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าจอด ค่าซ่อมจิปาถะต่างๆนานา จนมีหนี้สินรุงรังมากมายหมดเนื้อตัวมานานแล้ว 

ทางสมาชิกผู้ประกอบการเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการจึงเดินทางมาพบกับทางผวจ.นครศรีธรรมราชเพื่อให้นำเรียนสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ฯเพื่อขอให้รัฐบาลเร่งรัดจ่ายเงินเยี่ยวยาให้กับชาวประมงโดยเร็วเพราะช้าเนิ่นนานมานานแล้ว 

จากนั้นนายศรีธรรม ได้รับหนังสือร้อวเรียนดังกล่าวและรับปากว่าจะยืนหนังสือดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อรับทราบและเร่งรัดจ่ายเงินเยี่ยวยาแก่ชาวประมงที่เข้าร่วมโครงการนี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดเวลาที่กลุ่มชาวประมงยื่นหนังสือร้องเรียนกับผวจ.นครศรีธรรมราชอยุ่นั้นได้มีหญิงสาวเจ้าของเรือประมงลำหนึ่งยืนร่ำไห้น้ำคลอตลอดเวลา จนเพื่อนกลุ่มชาวประมงต้องเข้าปลอบใจตลอดเวลา