ปุ๋ยคนละครึ่งไม่ตอบโจทย์เกษตรกรเกษตรยังคงมีหนี้สิน
16 ก.ค. 2567, 17:03
วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวONBnewsรายงานว่า เกษตรกรระบุโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ไม่ได้เป็นโครงการช่วยเหลือเกษตรกรแต่ยังซ้ำเติมเกษตรกรอีก เนื่องจากการลงทะเบียนนั้นเกษตรกรต้องนำเงินไปลงทะเบียนก่อนถึงจะได้รับปุ๋ยโดยเรียกร้องให้โครงการไร่ละ 1000 บาทนั้น ยังดีกว่าถือว่าเกษตรกรสามารถที่จะนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในเรื่องของการทำนาได้มากกว่า และอยากให้ช่วยเหลือในช่วงที่เกษตรกรทำการเพราะปลูกและดูแลผลผลิต เพราะปัจจุบันเกษตรกรยังมีหนี้สินอยู่
เกษตรกรหลายรายในพื้นที่ตำบลสันป่าม่วงอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการช่วยเหลือของรัฐบาล ปุ๋ยคนละครึ่งเนื่องจากไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างแท้จริงและทำให้เกษตรกรขาดโอกาสในการช่วยเหลือจากภาครัฐ ในเรื่องของการทำนาสืบเนื่องจากโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้นเกษตรกรต้องไปลงทะเบียน ปุ๋ยคนละครึ่งและจ่ายเงินส่วนครึ่งหนึ่งก่อน จึงจะสามารถรับปุ๋ยได้ซึ่งขณะนี้เกษตรกรประสบกับภาวะเดือดร้อนเป็นอย่างหนักเนื่องจากไม่มีเงินที่จะเข้าร่วมโครงการและต้องกู้หนี้ยืมสินเขามา
โดยนายบุญชู กันวงศ์ อายุ 62 ปี เกษตรกรในพื้นที่ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ระบุว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว โครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น เกษตรกรย่ำแย่แน่นอนเพราะหากคำนวณมาแล้วหากเป็นโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ก็จะต้องใช้เงินไปลงทะเบียนในส่วนของครึ่งหนึ่ง ที่เกษตรกรรับผิดชอบซึ่งปัจจุบันเกษตรกรก็ไม่มีเงินอยู่แล้วจึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ในส่วนของตนเองนั้นไม่เข้าร่วมอย่างแน่นอนเพราะไม่มีเงินไปจ่ายให้อีกครึ่งหนึ่งซึ่งหากรัฐบาลจะช่วยก็ขอให้ช่วยเรื่องราคาผลผลิตจะดีกว่า เพราะที่ผ่านมาการช่วยเหลือของรัฐบาลก็ยังมีการช่วยเหลือบ้างแต่ก็สามารถอยู่ได้บ้างทั้ง ไร่ละ 1,000 บาท และส่วนต่างราคาข้าว แต่ปัจจุบันตอนนี้เกษตรกรซึ่งคิดว่าการช่วยเหลือไร่ละ 1000 บาท เกษตรกรยังถือว่าไม่คุ้มทุนแต่ก็ยังดีกว่าปุ๋ยคนละครึ่ง
สัมภาษณ์... นายบุญชู กันวงศ์ อายุ 62 ปีบ้านเลขที่ 185 หมู่ 3 ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา
ขณะที่นายทูล วงศ์กันทะ เกษตรกรอายุ 64 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน ระบุว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้น ตนเองไม่เห็นด้วยเพราะทุกวันนี้ชาวนาซื้อปุ๋ยซื้อยา ต้องซื้อก่อนที่จะมีโครงการช่วยชาวนาอยู่แล้ว ทุกวันต้องไปกู้นอกระบบมาซื้อปัจจัยการผลิตก่อน ในส่วนของการช่วยเหลือไร่ละ 1000 นั้นจะดีกว่าเนื่องจากเกษตรกรสามารถที่จะนำเงินดังกล่าวไปซื้อ ปัจจัยการ ผลิตค่าน้ำมัน ค่าตัดหญ้าอะไรต่างๆก็สามารถที่จะซื้อได้ แต่ขอให้ช่วยเหลือมาก่อนในช่วงเดือนมิถุนากรกฎาคม ก็จะเป็นการดี ในส่วนของปุ๋ยคนละครึ่งนั้นเกษตรกรไม่มีเงินที่จะไปลงทะเบียนร่วมโครงการอย่างแน่นอนเพราะต้องเสียค่าเปิดบัญชีธนาคารและเงินต้องเอาเข้าบัญชีเพื่อรับปุ๋ยดังนั้นเกษตรกรไม่สามารถเข้าร่วมได้อย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันเกษตรกรไม่มีเงินที่จะเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และเป็นหนี้เป็นสินกันแทบทุกคน เพราะต้องกู้เงินมาทำนาทุกปี ซึ่งโครงการปุ๋ยคนละครึ่งนั้นไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเกษตรกรได้ส่วนตัวเองนั้นก็คงไม่ร่วมโครงการดังกล่าว
สัมภาษณ์... นายทูล วงศ์กันทะ อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา