จากกรณีที่มีเฟซบุ๊คชื่อว่า แพนรก กุ้งก้ามกราม กุ้งขาว ได้โพสต์ข้อความว่า “ ที่อยู่ของแม่น้องนะคะอังคณา ป้อศิริ 098602497619/2 ม.1 ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี 20160ส่งของใช้ให้เด็กๆได้นะคะแพมเพิส××lซิลิเเลครสผักแม่น้องรับจ้างเลี้ยงเด็ก รายได้วันละ150เนื่องจากมีตัวเล็กไม่สามารถทำงานอื่นได้เหตุผลแต่ละครอบครัวต่างกันอย่าโทษใครว่ามีลูกเยอะไงช่วยเหลือเด็กๆๆได้ นะคะ ตอนนี้คนโตทั้ง2คุณครูเอาการบ้านมาให้ทำอยู่คะเราไปมาแล้วเช็คสถานะแล้ว ช่วยเหลือกันได้นะคะเด็กๆๆหน้าสงสารถึงลูกจะเยอะแต่เสื้อผ้า น้องสะอาดมาก คุณแม่หน้าจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบพอสมควร น้องอยู่ห้องเล็กๆๆแต่สะอาดมากนะคะ ถ้าเทียบกับเรา555เราจะรอให้ทนายเข้ามาช่วยเด็กๆๆหน้าจะอดตุยก่อน  คนเราอดมากๆๆเราไม่รุ้หรอกว่าเค้าอาจจะตัดสินใจกระทำอะไรไปเพียงอารมณ์ ชั่ววูบ ช่วย้หลือกันได้นะคะ ส่งให้เด็กๆๆโดยตรงก้อได้นะคะของกินของใช้ ลูกๆๆเราไม่ต้องการแต่เด็กๆๆอาจต้องการ “ จนมีชาวเน็ตแห่แชร์ออกไปจำนวนมาก 

   ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้  17 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.30 น.พระครูถาวรศรัทธาคุณ เจ้าอาวาสวัดวรพรตสังฆาวาสและนายสมชาย ฮวบจู สท.หนองตำลึงพร้อม สสท.จิตอาสาวิหกและแพทย์ รพ.สต.หนองกะขะ พร้อมนายสมใจ คำอ่อน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.หนองกะขะ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปยังห้องเช่าหลังดังกล่าวได้พบกับ นางสาวอังคนา ป้อศิริ อายุ 27 ปี แม่เด็ก อยู่ในห้องเช่ากัน 4 ชีวิต โดยได้นำข้าวสารอาหารแห้งพร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้ไฟฟ้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น 
จากการสอบถามนางสาวอังคนา ได้เล่าว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งแต่ท้องลูกคนเล็กพอคลอดลูกมาจึงไม่มีงานทำเพราะต้องเลี้ยงลูกตนก็ทำงานอยู่ที่บ้านโดยการรับเลี้ยงเด็กมีรายได้เพียงวันละ 150 บาทแต่กินอยู่กันสี่ชีวิตทั้งซื้อนมและซื้อแพมเพิดให้ลูกก็แทบจะไม่พอใช้จ่ายช่วงหลังตนจึงได้ให้ลูกสาวคนโตที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 ต้องหยุดเรียนก่อนเพราะต้องมาช่วยตนเลี้ยงน้องที่บ้านซึ่งตนได้ขอขู่ว่าให้หยุดจนถึง ม. 1 เมื่อพร้อมแล้วให้ลูกกลับไปเรียนต่อ ตนยอมรับว่าตัวเองมีลูกเยอะแต่ก็ไม่คิดทิ้งลูกเพราะตนรักลูกถึงไม่มีก็จะเลี้ยงดูอย่างดีแน่นอน

 ทางด้านพระครู ถาวร ศรัทธาคุณ เจ้าอาวาสวัดวรพรตสัฃฆาวาส ได้เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้เห็น Facebook มีคนโพสต์ลงโซเชียลว่ามีครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูกสามคนมีรายได้เพียงเลี้ยงเด็กได้เพียงวันละ 150 บาททำให้แม่ไม่พอต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจึงได้ประสานผู้ใหญ่บ้านและผู้นำท้องถิ่นลงมาตรวจสอบดูแลและนำเข้าของช่วยเหลือในเบื้องต้นพอมาเห็นก็พบว่าชีวิตรันทดน่าสงสารจริงก็ได้ช่วยเหลือเพียงเบื้องต้นเท่านั้นและแผนกภายภาคหน้าก็จะดูอีกทีว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้างเบื้องต้นก็ให้ทางผู้ใหญ่บ้านประสานกับทางโรงเรียนเรื่องให้เด็กกลับไปเรียน ให้จบและส่วนเด็กที่เหลือก็จะหาทางช่วยเหลือต่อไป