กทม.เผยผลทดลองปิดถนนแปลงนาม การจราจรเยาวราชคล่องตัวขึ้นทั้งรถและคน เล็งปิดต่อเนื่อง
21 ก.ค. 2567, 15:43
วันนี้ ( 21 ก.ค.67 ) พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร นายวัลลภ เกียรติวรศรีกุล ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ลงพื้นที่ถนนแปลงนาม เขตสัมพันธวงศ์ ตรวจติดตามการทดลองปิดถนนแปลงนาม ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนนเยาวราชกับถนนเจริญกรุง
พล.ต.อ.อดิศร์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า การทดลองปิดถนนแปลงนามในครั้งนี้นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว โดยสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ร่วมกับตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินการปิดถนนทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ในช่วงเวลา 19.00 – 24.00 น. โดยห้ามรถทุกชนิดเข้า ยกเว้นรถฉุกเฉิน ซึ่งถนนแปลงนามเป็นถนนช่วงท้าย ๆ ที่จะเลี้ยวขวาจากเยาวราชไปเชื่อมถนนเจริญกรุงและสถานี MRT วัดมังกร ที่มีผู้โดยสารจาก MRT ใช้ถนนเส้นนี้มากที่สุดทั้งเข้าและออก
โดยตลอดการการทดลองปิดถนนพบว่าได้ผลดี มีการจราจรที่ไหลลื่นมากขึ้นในช่องเลนขวาซึ่งในอดีตจะมีท้ายแถวยาว เมื่อดำเนินการปิดถนนไม่ให้เลี้ยวเข้าถนนแปลงนามซึ่งเปิดเดินรถทางเดียว โดยให้ไปเลี้ยวตรงแยกราชวงศ์ซึ่งห่างไปราว 300 เมตรแทน ทำให้รถไม่ติดเนื่องจากมีบางคันชะลอจะเลี้ยวเข้าถนน และนอกจากการจราจรจะดีขึ้นแล้ว ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินในเส้นทางนี้ยังชื่นชอบ เพราะไม่ต้องคอยระวังรถเฉี่ยวชนรวมถึงกลิ่นควันจากท่อไอเสีย ซึ่งก็สอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ทั้งนี้การทดลองสำหรับถนนแปลงนามก็เพื่อให้เป็นถนนสำหรับคนเดินเท้า เพราะร้านค้ามีอยู่แล้วแต่เดิม อีกทั้งนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) ก็ไม่ได้ให้เพิ่มจำนวนแต่ขอให้ร้านค้าตั้งร้านฝั่งหนึ่งอยู่ในเขตที่กำหนด ส่วนอีกฝั่งให้ตั้งร้านได้บนทางเท้าเท่านั้น
โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า การทดลองปิดถนนแปลงนามนั้นทำให้เกิดผลดีใน 3 มิติคือ 1.การจราจรบนถนนคล่องตัวขึ้น การสัญจรทางเท้าลื่นไหลขึ้น 2.ลดอันตรายและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น 3.เศรษฐกิจกิจในย่านนี้ที่จะดีขึ้นเมื่อมีการจัดระเบียบเรื่องการจราจร
สำหรับการขยายผล นายวัลลภ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตได้ทำหนังสือถึง ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 แล้ว เพื่อขอปิดถนนแปลงนามและทางสน.ก็ดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวไปถึง บช.น.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทาง บช.น. ว่าจะอนุญาตหรือไม่ หากอนุญาตก็จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาจากทางตำรวจอีกครั้ง ในระหว่างนี้ทางสำนักงานเขตก็จะมีการทำประชาพิจารณ์อีกครั้งโดยใช้ระยะเวลาราว 7 วัน ก่อนจะสรุปผลประเมินส่งไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ การทดลองปิดถนนแปลงนามในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ยังคงดำเนินต่อไปตามเวลาที่กำหนด