วันนี้ (23 ก.ค. 67) เวลา 11.30 น. ปภ. รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด รวม 5 อำเภอ 7 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวม 1,594 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภาพรวมระดับน้ำลดลง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยเร่งระบายน้ำและดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชน สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว 

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทำให้ระหว่างวันที่ 21 – 23 กรกฎาคม 2567 มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 จังหวัด ได้แก่ ตราด อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์ ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 1,438 ครัวเรือน โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เวลา 06.00 น) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด 5 อำเภอ 7 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 1,594 ครัวเรือน แยกเป็น 

1. จันทบุรี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองฯ (ต.บางกะจะ และ ต.ท่าช้าง) อ.ขลุง (ต.ซึ้ง และ ต.บ่อ) อ.เขาคิชฌกูฐ (ต.พลวง) อ.ท่าใหม่ (ต.สองพี่น้อง) บ้านเรือนได้รับผลกระทบรวม 656 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

2. ตราด เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองฯ (ต.กระแจะ) บ้านเรือนได้รับผลกระทบรวม 938 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 

ภาพรวมสถานการณ์น้ำลดลงในทุกพื้นที่ สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 17 จันทุบรี ได้สนับสนุนเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์เรือ รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ เข้าดำเนินการระบายน้ำออกจากพื้นที่และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จิตอาสา อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) อาสาสมัคร มูลนิธิ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชน สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติ พร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินต่อไป