เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย" หารือด่วนร่วมกับตำรวจกัมพูชา วางมาตรการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์


25 ก.ค. 2567, 14:00



"สำนักงานตำรวจแห่งชาติไทย" หารือด่วนร่วมกับตำรวจกัมพูชา วางมาตรการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์




วันนี้ (25 ก.ค.67) เมื่อเวลา 10.00 น. พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงสร้างความเสียหายแก่ประชาชนร่วมกับพลตำรวจเอกซอ เทต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง , ตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา , ธนาคารแห่งประเทศไทย , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) , สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผ่านระบบประชุมทางไกล ที่ห้องประชุม ศปก.ตร.ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


 



โดยพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้แถลงผลภายหลังการประชุมว่า การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้น จากการหารือร่วมกันระหว่างนายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูช ที่ได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นภัยคุกคามใหม่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง จึงได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของทั้งไทยและกัมพูชาร่วมหารือกันอย่างเร่งด่วน ในที่ประชุมวันนี้ได้ร่วมกันหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งบริบทของทั้งสองประเทศที่เปลี่ยนไปจากภัยคุกคามของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ในประเทศกัมพูชาที่เชื่อว่าจะเป็นจุดที่มีการตั้งสถานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่มีพฤติการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้ตำรวจกัมพูชาได้ร่วมสืบสวนและปฏิบัติการร่วมกันในอนาคต ซึ่งทางกัมพูชายินดีที่จะร่วมมือด้วย


นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลผู้กระทำความผิดในไทยที่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศกัมพูชา และใช้เป็นฐานในการหลอกลวงคนไทย จึงได้ขอความร่วมมือทางกัมพูชาในการส่งตัวคนไทยที่มีหมายจับเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 100 คนมาดำเนินการตามกฎหมายของประเทศไทยให้ได้ และหลังจากนี้

จะมีการตั้งคณะทำงานย่อยร่วมกันระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล วิธีปฏิบัติการร่วมกันทั้งการสืบสวน ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะเดินทางการประชุมหารือเพื่อกำหนดทิศทางและ วางแผนการปฏิบัติการร่วมกัน โดยเน้นเรื่องเกี่ยวกับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์เป็นหลักในสัปดาห์หน้าที่ประเทศกัมพูชา ขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศอยู่ระหว่างการกำหนดบุคลากรตำรวจที่จะร่วมในคณะทำงาน และทางเจ้าหน้าที่ไทยพร้อมรับข้อเสนอความร่วมมือเกี่ยวกับการปราบปรามการค้าจากทางกัมพูชา และเรื่องอื่นๆเพื่อกลับมามอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในไทยร่วมดำเนินการต่อไป






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.