หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต ประกาศเมื่อวันที่ 21 ก.ค.67 ขอถอนตัวจากการลงเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 พร้อมทั้งสนับสนุนให้นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีแทน     

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ร็อบ ฟลาเฮอร์ตี รองผู้จัดการทีมรณรงค์หาเสียงของนางแฮร์ริส เปิดเผยว่า นางแฮร์ริสสามารถระดมเงินสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีจำนวนผู้บริจาครายใหม่ๆที่สนับสนุนเงินการรณรงค์หาเสียงของพรรคเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 66 และมีอาสาสมัครใหม่ๆจำนวน 170,000 คน มาลงชื่อสมัครร่วมทำงานกับทีมหาเสียงของนางแฮร์ริสในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่นางแฮร์ริส เสนอตัวเป็นตัวแทนผู้สมัครประธานาธิบดี แข่งขันกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ 5 พ.ย.67

 ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ชี้ว่า นางแฮร์ริสและนายทรัมป์มีคะแนนนิยมใกล้เคียงกัน โดยนางแฮร์ริสนำนายทรัมป์อยู่เพียง 2 จุดคือ ร้อยละ 44 ต่อร้อยละ 42 สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันในช่วง 100 วันสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งจะดำเนินไปอย่างสูสี

ขณะที่  ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ของวอลล์สตรีท เจอร์นาลของสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ 26 ก.ค.67 นายทรัมป์มีคะแนนนิยม นำนางแฮร์ริส ร้อยละ 49 ต่อ 47 สุ่มสำรวจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 1,000 คนทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 23-25ก.ค.67 ผลสำรวจก่อนที่นายไบเดนจะถอนตัวก็พบว่า นายทรัมป์ มีคะแนนนำนายไบเดนอยู่ 6 จุด

ด้านทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ เปิดเผยเมื่อต้นเดือนก.ค.67ว่า นายทรัมป์ระดมเงินบริจาคสนับสนุนทางการเมือง 331 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯระหว่างเดือนเม.ย.67ถึงเดือนมิ.ย.67และมีเงินสดอยู่จำนวน 284.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่พร้อมใช้จ่ายสำหรับรณรงค์หาเสียงได้ทันที