"คุณยายหูพิการ" ร้องสื่อฯ ถูกลูกเลี้ยงหลอกเซ็นต์รับเงินสงเคราะห์ศพแล้วเชิดเงินหนี
29 ก.ค. 2567, 15:58
กาฬสินธุ์ คุณยายวัย 66 ปี ผู้พิการ ประเภท 2 (ความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย) ร้องสื่อมวลชน สามีคู่ชีวิตเสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อ ถูกลูกเลี้ยงหลอกให้เซ็นต์หนังสือมอบอำนาจรับเงินสงเคราะห์ศพ สมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิก สกก.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับเงินแล้วเชิดหนีไปต่างจังหวัด ขอความเห็นใจให้ช่วยแบ่งเงินที่สามีทิ้งไว้ให้เป็นก้อนสุดท้ายไว้ต่อลมหายใจ
คุณยายสมทรง ภูผาจง ภรรยาผู้เสียชีวิต (ผู้พิการทางการได้ยิน) อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 11 บ้านโคกคันจ้อง ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เล่าเรื่องราวสุดช้ำให้ผู้สื่อข่าวฟังพร้อมน้ำตาว่า ก่อนที่สามีจะเสียชีวิต สามีเคยบอกไว้ว่ากลัวลูกสาว (ลูกเลี้ยง) จะหอบเงินฌาปนกิจฯหนี เพราะตนเองหูไม่ได้ยิน เขาบอกให้เซ็นต์อะไรก็จะเซ็นต์ ก็ไม่คิดว่าลูกเลี้ยงจะทำได้ลงคอจริงอย่างที่สามีเคยบอกไว้ เขามาอยู่ก็ไม่ค่อยได้ดูแลสามีเท่าไหร่ ไปขอนแก่น, อุดรธานี หรือที่ไหน ๆ ตนเองก็เป็นคนพาสามีไปรักษาหมดทั่วประเทศไทย ตนเองก็เป็นคนไปจ่ายเงินค่าสมาชิกฌาปนกิจมาโดยตลอด จนเจ้าหน้าที่ สกก.ยางตลาด ถามว่ายายมาเสียเงินค่าสมาชิกฯ แล้วยายมีชื่อรับผลประโยชน์หรือไม่ ตนเองก็บอกว่าไม่มีชื่อรับผลประโยชน์ ซึ่งขณะนั้นสามีของตนยืนอยู่ข้างหลัง เจ้าหน้าที่ก็เลยถามสามีตนเองว่า ทำไมไม่มีชื่อภรรยาผู้ดูแลและชำระเงินสมาชิกให้ได้รับผลประโยชน์เพราะตนเองเป็นเมียต้องเอาชื่อตนเองเข้าด้วยจะให้ลูกเลี้ยงคนเดียวไม่ได้ และขณะนั้นตนเองได้กำเงินไว้อยู่ เจ้าหน้าที่เลยถามตนเองว่าคุณยายจะชำระเงินไหม ตนเองก็เลยตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน สามีของตนเองก็เลยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าถ้าอย่างนั้นก็เอาชื่อของตนเองผู้เป็นภรรยาเข้าเป็นผู้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย ซึ่งตนเองเป็นคนจ่ายเงินสมาชิกฯ ทั้งช่วงต้นปี กลางปี และปลายปี
ด้านคุณลำดวน ก้อนวิมล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 11 บ้านโคกคันจ้อง ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ (088-5216056) หลานของคุณยายสมทรง บอกว่า เราเคยไปไกล่เกลี่ยเรื่องนี้กันแล้วที่ สภ.ยางตลาด แล้วขอว่าให้แบ่งเงินกันคนละครึ่ง เพราะมีผู้รับผลประโยชน์ 2 คน ถ้าแบ่งกันคนละครึ่งมันก็ไม่มีปัญหา แต่เขา (ลูกเลี้ยง) บอกว่าค่าใช้จ่ายที่จัดงานศพทั้งหมด เป็นจำนวน 187,600 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เยอะมาก ผู้กองก็เลยไกล่เกลี่ยว่าจะให้คุณยายสมทรงเท่าไหร่ คุณดวงเนตร (ลูกเลี้ยง) ก็เลยบอกว่าให้ได้แค่ 10,000 บาท ผู้กองก็เลยบอกว่าเพิ่มให้อีกได้ไหมสัก 5,000 บาท เขาก็ยืนยันว่าได้แค่ 10,000 บาท คุณยายสมทรงจึงตัดสินใจไม่รับเงินจำนวนนี้ แล้วที่มาร้องเรียนผู้สื่อข่าวในวันนี้ก็เพราะคุณยายอยากเรียกร้องเอาเงินส่วนที่แกจะได้รับจำนวน 60,000 บาท คือคนละครึ่งตามสิทธิผู้รับผลประโยชน์
ทนายเกษม นาธงชัย เพื่อนของหลานคุณยายสมทรง บอกว่า คุณยายไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย ยายเป็นคนมีวุฒิภาวะ คือให้เท่าไหร่ก็ได้ แต่ขอให้คุณยายหน่อย แกไม่ได้ระบุว่าต้อง 6 หมื่น 7 หมื่น แกอยากได้เงินสักก้อนหนึ่ง 4 หมื่นหรือ 5 หมื่นก็ได้ แต่ขอให้มาคุยกันว่าใช้จ่ายไปจริง ๆ เท่าไหร่ ขอดูเอกสารหลักฐานหน่อย ยายไม่ได้ว่าเลย ยายเป็นคนดีมาก ถึงแกจะเป็นคนพิการทางการได้ยินแต่แกเป็นคนมีจิตใจที่ดีงามมาก แล้วไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.ยางตลาด เขาก็บอกว่าอยากได้ให้มาฟ้องเอา พูดจาท้าทายระบบมาก ซึ่งตอนนี้คุณยายก็ยังยืนยันว่าไม่อยากได้มากมาย ขอแค่ได้เงินสักก้อนเพื่อมาดำรงชีพต่อไปในวันข้างหน้า เพราะเงินตัวนี้เป็นตัวแทนลมหายใจของสามีคุณยาย ที่เป็นคู่ชีวิตเคยใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
โดยผู้เสียชีวิต (นายทวี เทพชา) เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิก สกก.ยางตลาด เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2556 มีชื่อผู้รับผลประโยชน์ 2 คน คือ 1. น.ส.ดวงเนตร เทพชา (ลูกเลี้ยง) และ 2. นางสมทรง ภูผาจง ภรรยาผู้พิการทางการได้ยิน ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2567 โดยโรคปอดติดเชื้อ และได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ ณ เมรุวัดสว่างบุญมีบ้านโคกคันจ้อง ต.หัวงัว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2567