เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปราบมา 7 ปี ไม่หมด "ปลาหมอคางดำ" รุกที่กุ้งก้ามกราม หวั่นหมดคลอง หมดอาชีพ


1 ส.ค. 2567, 12:37



ปราบมา 7 ปี ไม่หมด "ปลาหมอคางดำ" รุกที่กุ้งก้ามกราม หวั่นหมดคลอง หมดอาชีพ




 

       ประธานชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามอำเภอสวี จ.ชุมพร เผยปลาหมอคางดำระบาดตั้งแต่เมื่อ6-7 ปีก่อนร่วมกับสมาชิกและชาวบ้านลงมือกำจัดแต่ไม่หมด ซ้ำปลาหมอคางดำรุกที่  อยู่แทนกุ้งก้ามกรามหากหยุดกำจัดกุ้งหอยปูปลาหมดแน่พบลอยเป็นฝูงริมคลอง  ส่วนอีกคลองพบว่ายผิวน้ำอื้อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเผยระบาดมานานยากปราบหมด แนะต้องใช้ปลากะพงล่าและหน่วยงานรัฐจัดงบซื้ออุปกรณ์ พร้อมเปิดแหล่งรับซื้อราคาสูงเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านมีรายได้

        เมื่อวันที่ 31 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในจังหวัดชุมพร พบว่าในอยู่ในแหล่งน้ำเกือบทุกพื้นที่ทั้งแหล่งน้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย โดยเฉพาะคลองสวีหนุ่ม และคลองสวีเฒ่า พื้นที่อำเภอสวี จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่ทำการชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามอำเภอสวี ตั้งอยู่ริมคลองสวีหนุ่มเลขที่ 77/1 หมู่ 5 ตำบลปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร  พบนายบุญเลิศ  วชิรศิริ อายุ 82 ปี ประธานชมรมฯ เปิดเผยว่า ก่อตั้งชมรมฯเมื่อปี 2557 ครบ 10 ปีในปีนี้ มีสมาชิกประมาณ 300 คน ปลาหมอคางดำเริ่มระบาดในคลองสวีหนุ่มและคลองชุมซึ่งเป็นลำคลองแยกสายออกมาจากแม่น้ำสวี ตั้งแต่เมื่อ 7 ปีก่อนหรือตั้งแต่ปี 2560 

       หลังจากนั้นกรมประมงได้จัดงบประมาณช่วยเหลือเพื่อจัดหาอุปกรณ์เป็นอวนดักจับปลาหมอคางดำซึ่งในขณะนั้นจับได้เป็นจำนวนมาก และได้วางอวนปราบกันเรื่อยมาแต่ปราบอย่างไรก็ไม่หมด แต่ลดน้อยลงขณะที่ปลาหมอคางดำวางไข่แพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว รุกเข้ามาอยู่แทนที่กุ้งก้ามกรามตามริมตลิ่ง ทำให้ชาวประมงที่หากินอยู่กับคลองสวีหนุ่มและคลองชุมไม่มีรายได้ นอกจากวางอวนหาเป็นมื้อกับข้าวเท่านั้น 

     สำหรับสมาชิกชมรมอนุรักษ์กุ้งก้ามกรามอำเภอสวี มีกติกาว่า หากมีการปล่อยลูกพันธุ์กุ้งกรามจากหน่วยงานราชการต้องช่วยกันดูแล สมาชิกคนใดตกกุ้งที่มีไข่และกุ้งขนาดเล็กต้องปล่อยลงคืนสู่ลำคลองทันที จนมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำทำให้ปริมาณกุ้งก้ามกรามลดลง

       หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังหมู่ 1 บ้านไร่ล่าง ตำบลปากแพรก อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นคลองสวีเฒ่าอยู่ห่างจากคลองสวีหนุ่มประมาณ 4-5 กิโลเมตร พบนายสมคิด  สุดสวาสดิ์ อายุ 76 ปี และนายอุทิศ  รอดพิรุณ  อายุ 58 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หลังบ้านติดลำคลองขนาดใหญ่และเป็นที่เลี้ยงปลากะพงในกระชังเรียงรายอยู่ริมฝั่งคลองจำนวนมาก 

       ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กุ้งก้ามกรามหมดแล้วไม่เหลือ ในคลองมีแต่ปลาหมอคางดำลอยกันเป็นแพแน่นคลอง ไม่รู้จะกำจัดยังไงถ้าจะเอาเรือมารุนชาวบ้านเสียงส่วนใหญ่ไม่ให้นำเรือมารุนเพราะจะทำลายสัตว์น้ำเล็กใหญ่ทั้งหมด แต่ชาวบ้านก็หากินในคลองตามปกติวางอวนจับปลาหมอคางดำมาได้ครั้งละประมาณ 10-20 กิโลผ่าใส่เกลือทำปลาแดดเดียวให้ลูกหลานได้กินกัน จะไปวางอวนจับปลาหมอคางดำขายในพื้นที่ยังไม่มีคนรับซื้อ ถ้าจะขายต้องไปต่างพื้นที่ซึ่งไม่คุ้มค่าเดินทางเพราะปลาหมอคางดำขายได้กิโลละ 15 บาท จึงไม่มีแรงจูงใจให้ชาวบ้านจับปลาหมอคางดำขาย  ราคาถูกมากราคาน่าจะสูงกว่านี้เพราะเป็นปลาตัวใหญ่  
        สำหรับปลากะพงที่เลี้ยงอยู่ในกระชังไม่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำเพราะเข้าไม่ได้แต่ถ้าตัวเล็กเล็ดลอดเข้าไปในกระชังได้ปลากะพงจับกินหมด  ชาวประมงหาเช้ากินค่ำในลำคลองไม่มีรายได้

          คลองสวีเฒ่าเป็นคลองน้ำที่เชื่อมต่อกับคลองวิสัยมีความยาวหลายสิบกิโลเมตรปากคลองน้ำไหลลงสู่ทะเลได้ น้ำคลองจะเป็นน้ำกร่อยและน้ำเค็ม ปลาหมอคางดำที่ระบาดอยู่ในขณะนี้เชื่อว่าทำลายไม่หมด นอกเสียว่าทางหน่วยงานรัฐจัดงบประมาณหรือจัดหาอุปกรณ์การจับมาให้ชาวบ้านและเปิดแหล่งรับซื้อราคาสูงเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้”
 









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.