เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 4 ส.ค.67 ร.ต.อ.บรรจง  ศักดิ์พิมล  พนักงานสวบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร จ.ชุมพร พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์โรงพยาบาลชุมพร หน่วยกู้ภัยกู้ชีพมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ เดินทางเข้าตรวจสอบมีคนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชนบ้านร่องน้อย ตั้งอยู่ปากซอย 9 (ชบาเล)ริมถนนสายชุมพร-ปากน้ำเก่า หรือท่ายางหัวถนน หมู่ 10 ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตำรวจกั้นพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้โดยมีชาวบ้านและเพื่อนๆคนรู้จักของผู้เสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุจำนวนมาก

ตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือนายชัยกร  อายุ 54 ปีสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายสก๊อตสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าแตะสีส้ม มีกระเป๋าสะพายวางอยู่เหนือศีรษะเสียชีวิตในสภาพนั่งบนเก้าอี้ไม้ภายในศูนย์สาธารณสุขชุมชนฯขนาดเล็ก ลำตัวฟุบคว่ำหน้า ศีรษะทับอยู่บนมือซ้ายขวาและอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์บรรจุกระสุนขนาด.38 มม.ปลายกระบอกหันไปทางทิศซ้ายมือ  

ชันสูตรพลิกศพพบว่ามีรูกระสุนปืนถูกยิงบริเวณขมับขวาทะลุซ้าย เลือดไหลนอง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธปืนโดยหักลำกล้องมีปลอกกระสุนชนิด.38 ค้างอยู่ในรังเพลิง 1 นัดจึงรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน 

จากการสอบสวนจากเพื่อนที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลฯ(สท)รายหนึ่งของผู้เสียชีวิต เล่าว่า คนตายมีภูมิลำเนาเดิมเป็นคนตำบลท่ายาง และเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนต่อมามีครอบครัวได้ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯอาชีพค้าขาย  ต่อมาภรรยาเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว ขณะที่นายชัยกร คนตาย เดินทางกรุงเทพชุมพรบ่อยๆทุกครั้งที่มาชุมพรจะมาหาตนและนั่งกินกาแฟกันทุกครั้ง

เช้าวันเกิดเหตุนายชัยกรมาหาตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง ที่ศูนย์ฯชุมชนเพื่อกินกาแฟกันแต่ตนขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้านพักใกล้ศูนย์ฯชุมชน แต่ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนและภรรยาวิ่งออกมาดูพบว่านายชัยกรยิงตัวเองแล้ว   เพื่อนผู้ตายเล่าอีกว่า ทุกครั้งที่มาหาเพื่อนๆจะบ่นให้ฟังว่าเครียด แต่ไม่นึกว่าจะตัดสินใจยิงตัวตายจริงๆ นายชัยกร มีลูกชาย 2 คน 1 คนถูกจับขณะนี้ยังถูกควบคุมขังอยู่ในเรือนจำ 

ส่วนเพื่อนหญิงผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า คนตายประกาศบอกขายที่ดินจำนวนกว่า 3 ไร่ ราคา 5 ล้านบาทแต่ขณะนี้ยังขายไม่ได้ ซึ่งคนตายอาจจะเครียดหลายเรื่อง

อย่างไรก็ตามด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อมก่อนส่งมอบศพชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ด้านญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงมอบร่างเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป