หนุ่มใหญ่ขี่จยย.ออกจากปั๊มน้ำมัน เร่งเครื่องมองแต่ด้านหลัง เสยท้ายรถเทเลอร์ดับ
29 ต.ค. 2562, 11:29
วันที่ 28 ต.ค.62. เวลา 22.00 น. ร.ต.อ.หญิง สิริลักษณ์ ฮวบสกุล ร้อยเวร จราจร ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 เมืองสระบุรี ว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเทเลอร์ 22 ล้อ เสียชีวิตคาที่ เลยปั๊มปตท.มา 300 เมตร ถนนพหลโยธินคู่ขนานขาเข้ากทม หน้าวัดปากข้าวสารใต้ กม103-104 ม. 1 ต. ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี จึงได้รุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรรพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี
พบ ศพผู้ตายนอนหงายเสียชีวิตอยู่กลางถนน สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงยีนส์ขายาว ใกล้กันพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ทริซิตี้ สีเทา ทะเบียน 2กว กรุงเทพมหานคร 5271 สภาพพังเกือบทั้งคัน อัดก๊อปปี้อยู่กับท้ายรถเทเลอร์ที่ล้อหลังด้านขวา รถเทเลอร์ 22 ล้อ ซึ่งบรรทุกน้ำตาลทรายมาเต็มคันรถ คลุมด้วยผ้าใบ ทะเบียนหน้า 70-2597 กำแพงเพชร ทะเบียนพ่วงหลัง 63-1210 กรุงเทพมหานคร ทราบชื่อคนขับ นาย บำรุง ปทุมสูติ อายุ 48 ปี เลขที่ 104/1 หมู่ที่ 1 ต.ห้วยขมิ้น อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี (ตามบัตรประชาชน)
ในบริเวณที่เกิดเหตุพบ ชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์ตกเกลื่อนบนถนนเต็มไปหมด ส่วนแพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต พบ มีร่องรอยที่ใบหน้าและคางฉีกขาด ศีรษะด้านหลังแตกเลือดไหลนองพื้นถนน ขาข้างซ้ายหัก ข้อมือซ้ายหักกระดูกโผล่ออกมา คนในตัวผู้เสียชีวิต พบกระเป๋าตัง 1 ใบ ทราบชื่อ นาย สุรชาติ อาจสด อายุ 16 ปี เลขที่ 256 ซ.กุนนที แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร (ตามบัตรประชาชน)
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบ นาย บำรุง ปทุมสูติ คนขับรถเทเลอร์ 22ล้อ เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ขับรถจากจังหวัดเพชรบูรณ์บรรทุกน้ำทรายมาเต็มคันรถ เพื่อจะไปส่งที่แหลมฉบัง มาถึงที่เกิดเหตุ ตนเองได้จอดรถข้างทางและเปิดไฟผ่าหมากไว้ ได้ลงมาเช็คเชือกผ้าใบ เสร็จแล้วตนเองได้เดินไปปัสสวะข้างกำแพง จู่ๆได้ยินเสียงดังโครมที่หลังรถ จึงได้รีบเดินไปดู ก็พบผู้เสียชีวิตชนท้ายรถของตนเองตายดังกล่าว
ส่วนทางด้าน นาย นำโชค คิมมูเหลือง อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นน้าของคนตาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คัน คันละ 2 คน เพื่อไปส่งลูกที่เพชรบูรณ์ แต่ผู้ตายบอกให้ตนเองเอารถยนต์มา แต่ตนเองชอบขับรถจักรยานยนต์มากกว่า แต่ถ้าเอารถยนต์มาเขาก็คงจะไม่เป็นอะไร เพราะว่าเวลามาปกติไม่เคยมีปัญหา ผู้ตายเป็นคนขับรถเก่ง ตนออกจากเพชรบูรณ์เพื่อจะกลับกรุงเทพจะไปทำงานต่อ แต่ผู้ตายยกมือไหว้ยังไม่อยากกลับ อยากอยู่ต่อ ตนเลยบอกว่า เดี๋ยวจะไปทำงานไม่ทัน ตนเองจึงได้พากันขับรถออกมา ถึงจ.สระบุรี เลยขับรถเข้าปั๊มปตท. ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วได้ขับออกมาก่อน แต่ผู้ตายได้แวะกินข้าวในปั๊ม และได้ตามตนมาทีหลัง ตนเองได้ขับเข้าเส้นทางหลักแล้ว แต่ก็เอะใจว่าทำไมหลานยังไม่มาสักที ตนเองก็เลยเปิดไฟผ่าหมากรอ เพราะปกติผู้ตายจะขับตามตนเองมาติดๆ แต่ครั้งนี้มันนานผิดปกติ ตนเองรออยู่เกือบ 5 นาที ตนเองคิดว่าจะขับล่วงหน้าไปก่อนและให้ผู้ตายตามมาทีหลัง แต่ตนคิดว่ามันชักจะยังไงๆอยู่ ก็เลยขับรถย้อนศรกลับไปดู ก็เห็นรถกระบะขับสวนมาเปิดไฟสูงใส่ เลยขับมาดูเห็นรถมูลนิธิเปิดไฟเรนอยู่ ตนเองชักใจไม่ดี เห็นคนนอนตายอยู่สวมเสื้อสีแดง พอมาดูก็เห็นว่าเป็นหลานของตน ความรู้สึกของตนใจล่วงไปอยู่ตาตุ่มเลย ตนไม่คิดเลยว่าจะพาหลานมาตาย
สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะขับรถจักรยานยนต์ออกจากปั๊ม และจังหวะเร่งเครื่องเพื่อจะออกตัวอย่างเต็มที่ และได้มองแต่ด้านหลังข้างขวา กลัวว่ารถหลังจะมา เลยไม่ได้มองรถข้างหน้าที่จอดอยู่ข้างทาง จึงได้วิ่งชนเสยท้ายรถเทเลอร์ 22 ล้อ อย่างจังโดยที่ไม่ต้องแตะเบรกเลย และทำให้เสียชีวิตคาที่ ส่วนศพของผู้ตายได้นำไปไว้ที่รพ.สระบุรี เพื่อรอญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป