ชาวสวนมะลิเศร้าดอกมะลิราคาดีแต่ออกดอกน้อย
11 ส.ค. 2567, 11:32
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นางบำรุงรัทย์ ขันทอง เกษตรอำเภอสามชุก พร้อมหัวหน้ากลุ่มอารักขาศัตรูพืชสำนักงานเกษตรจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสวนมะลิของนายบันเทิง อนันตสุข อายุ 74 ปี เกษตรกรตำบลสามชุก ซึ่งทำสวนมะลิ จำนวน 2 ไร่ อยู่ริมถนนสายสามชุก-เดิมบางบวงบวช เพื่อติดตามปัญหาหลังได้รับแจ้งว่ามะลิไม่ออกดอก
นายบันเทิง อนันตสุข (คุณตาบันเทิง) วัย 74 ปี เล่าว่าทำอาชีพเกษตรกรทำนามาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ส่วนสวนมะลิเริ่มทำตั้งแต่อายุ 15 ปี จนถึงปัจจุบันแต่ก่อนที่ปลูกมะลิ ตนปลูกกุหลาบและดาวเรืองมาก่อน หลังจากทำไปได้ระยะหนึ่งตนก็คิดว่าการปลูกกุหลาบกับดาวเรืองนั้นต้องปลูกอยู่เรื่อยๆ จึงคิดว่าปลูกมะลิดีกว่าปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นาน จึงเปลี่ยนมาปลูกมะลิ นอกจาก มะลิ แต่ก็ยังมี จำปี 2 ไร่ เพื่อหารายได้เสริม จากการทำนาเป็นหลักประมาณ 40-50 ไร่ เรียกว่าเป็นอาชีพที่เราต้องทำเพื่อช่วยประคองกันไป ถ้าทำอย่างเดียวสู้ไม่ไหว เพราะเศรษฐกิจเราไม่โอเค ตอนนี้ข้าวของแพงหมด เราอาศัยทำเกษตร อย่างเช่นมะลิ นี่ช่วยได้เยอะ อย่างน้อยก็ได้ค่าใช้จ่ายในครอบครัว ค่าน้ำค่าไฟ แล้วยังช่วยเกษตรกรชาวบ้านได้บางส่วน คือการจ้างแรงงาน เพราะเวลาเก็บดอกมะลิต้องใช้คนงานมากประมาณ 10 กว่าคน ลำพังเราคนเดียวทำไม่ได้
สำหรับดอกมะลิ ในสวนของตนจะขายให้แม่ค้าประจำเพียงเจ้าเดียว โดยมีตกลงรับซื้อราคากิโลละ 200 บาท ไม่ว่าราคาจะกว่านี้หรือแพงกว่านี้ ตนก็ขายได้ราคา กิโลละ 200 บาท ลักษณะเหมือนการประกันราคา และตนก็จ้างคนงานเก็บดอกมะลิ กิโลละ 100 บาท หักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วตนเหลือไม่ถึงครึ่ง แต่ก็ยังดีที่อย่างน้อยก็ยังมีรายได้ดีกว่าไม่มีรายได้อะไรเลย อีกอย่างก็คิดเสียว่าเป็นการช่วยสร้างอาชีพให้คนรอบข้างที่เขาไม่มีงานทำด้วย อย่างน้อยยังช่วยเหลือกันได้
ปกติที่สวนมะลิจะออกดอกดีมาก เก็บได้มากถึงวันละ 70 กว่ากิโล บางวันเก็บไม่หมดเพราะออกเยอะเกินแม่ค้าก็รับไม่ไหวก็เลยต้องปล่อยให้แห้งเหี่ยวทิ้งไป ตนจึงปรับแนวคิดและวางแผนใหม่โดยการแบ่งเป็นล็อก 3 ล็อก แล้วตัดแต่งกิ่งมะลิเพื่อให้มะลิออกดอก ไล่รุ่นจะได้ผลผลิตพอดีกับความต้องการของแม่ค้าที่รับซื้อประจำ ปีนี้จึงเริ่มลงมือทำแต่ผลปรากฏว่ามะลิกลับออกดอกน้อยไม่พอกับความต้องการของแม่ค้า และยิ่งช่วงนี้ตนทราบว่ามะลิ ราคาแพงมากกิโลละ 500-600 บาท ถ้ามะลิมาจากกรุงเทพ ก็จะแพงขึ้นไปอีกยิ่งช่วงเทศกาลวันแม่ ดอกมะลิราคาจะสูงยิ่งกว่านี้
ซึ่งตนก็อยากให้มะลิออกดอกตรงกับวันแม่ แต่ทำไม่ได้ ตนวางแผนผิดประกอบกับ มะลิก็ออกดอกน้อย ตนคงต้องวางแผนใหม่ เพื่อให้มะลิออกดอกตรงกับช่วงเทศกาล ถึงแม้ตนจะขายราคาเพียงกิโลละ 200 บาท แต่ถ้าตลาดต้องการมาก แม่ค้าก็รับซื้อหมดก็เลยทำให้เสียโอกาส ส่วนสาเหตุที่มะลิออกดอกน้อย คงมาจากหลายปัจจัยทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงประกอบกับ หนอนเจาะดอก เพลี้ยไฟ ไรแดง ระบาด ตนพยายามฉีดสารเค มีเพื่อกำจัดแต่เอาไม่อยู่เพราะแมลงศัตรูพืชมันดื้อยา
ด้านนางบำรุงรัทย์ ขันทอง เกษตรอำเภอสามชุก กล่าวว่าวันนี้ได้ลงติดตามพื้นที่ หลังทราบว่าเกษตรกรประสบปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตน้อยและโรคแมลงศัตรูของมะลิ จึงได้มาเยี่ยมให้กำลังใจให้คำแนะนำในการใช้สารชีวภัณฑ์ในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช เพื่อจะได้ลดการใช้สารเคมี ในส่วนของผลผลิตที่ตกต่ำอาจจะมาจากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงและอีกหลายปัจจัย นอกจากนี้เรายังได้แนะนำในเรื่องของการตัดแต่งกิ่ง เพื่อรอผลิตรุ่นต่อไป สำหรับผลิตรุ่นนี้คงจะไม่ทันช่วงเทศกาลวันแม่
สำหรับมะลิแปลงนี้ถือว่าเป็นแปลงที่เกษตรกร มีการวางแผนการผลิต โดยการตัดแต่งกิ่งให้ออกผลผลิตเป็น 3 รุ่นเพื่อให้ผลผลิตออกตลอดเวลา ซึ่งการตัดแต่งกิ่งให้เป็นพุ่ม จะช่วยให้โรคแมลงที่มีอยู่หายไปและจะได้ผลผลิตรุ่นใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งพืชทุกชนิดถ้ามีการตัดแต่งทรงพุ่ม จะเป็นการลดที่อยู่ไม่ให้แมลงมีที่หลบจะทำให้มะลิ แตกยอดใหม่ให้ดอกใหม่ ให้เกษตรกร ได้เก็บในรอบต่อไป ซึ่งหลังจากตัดแต่งกิ่งแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน มะลิถึงจะแตกยอดออกดอก ในส่วนของเกษตรกรที่ประสบปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช สามารถเข้าไปรับคำปรึกษา จากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็จะมีการแนะนำทำสารชีวภัณฑ์ใช้ในการป้องกันกำจัดทั้งโรคและแมลงศัตรูพืชได้ เกษตรกรท่านใดที่สนใจ ติดต่อได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอสามชุก หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 035-572641