อาม่าใจแกร่ง! พิชิตยอดเขาล้อมหมวก 902 ฟุตด้วยวัย 70 ปีในวันแม่แห่งชาติ
12 ส.ค. 2567, 12:05
วันที่ 12 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดประจวบรายงานว่า ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป กองบิน 5 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จะมีการจัดกิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวกซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 902 ฟุต เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาพิสูจน์ความสามารถ ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของตนเองและถ่ายภาพชมทัศนียภาพในมุมสูงบนยอดเขา พร้อมกับกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และรอยพระพุทธบาทจำลองที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาล้อมหมวก
ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็เช่นกันมีวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน คือ ช่วงสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 67 โดยในวันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวจังหวัดประจวบ และจังหวัดอื่นๆในประเทศไทยทั้งจังหวัดโซนภาคกลาง ภาคเหนือ และโซนภาคใต้ ต่างเดินทางมาเพื่อหวังเข้าร่วมกิจกรรมพิชิตยอดเขาล้อมหมวกที่ทางกองบิน 5 ได้จัดขึ้นในครั้งนี้ โดยนักท่องเที่ยวแต่ละคนที่มาในวันนี้ส่วนใหญ่จะบอกว่าเพิ่งมาปีนเขาครั้งนี้เป็นครั้งแรก และได้เดินทางเตรียมตัวมาพักค้างที่ตัวเมืองประจวบล่วงหน้าก่อน 1 วัน เพื่อพักผ่อนเตรียมความพร้อมร่างกาย และนักท่องเที่ยวบางรายเมื่อเดินทางมาถึงก็จะลงทะเบียนแล้วขึ้นปีนเขาล้อหมวกเลยทันที
แต่ที่เป็นไฮไลท์สุดที่ทำให้นักท่องเที่ยววัยรุ่นหนุ่มสาวฮือฮาก็คือการปีนเขาในครั้งนี้มีอาม่า 2 ท่าน อายุ 69 ปี และ 70 ปี มาร่วมท้าทายพิสูจน์ความสามารถของตนเองด้วย ซึ่งก็สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นหนุ่มสาวได้มีกำลังใจที่จะพยายามปีนป่ายไต่เขาไปให้ถึงจุดสูงสุดของยอดเขาให้ได้ เนื่องจากกลัวเสียหน้าที่จะต้องแพ้อาม่าวัย 70 ปี ที่มีความพยายามปีนไปจนสุดยอดเขา
นางวีณา ไตรรัตน์วรากรณ์ วัย 70 ปี และนางมณี วรรณขจีพิบูลย์ วัย 69 ปี เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองอยู่กรุงเทพฯ และอยากมาปีนเขาล้อมหมวก เพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายของตนเอง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ปีนเขาล้อมหมวกในวันหยุดยาววันแม่แห่งชาติ พอรู้ว่ากองบิน 5 จัดให้ปีนเขาล้อมหมวกจึงได้บอกให้น้องช่วยพามาปีนเขา และเมื่อได้ปีนแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยมากสุดยอดเลย เนื่องจากพอปีนถึงด้านบนยอดเขามีวิวที่สวยงาม ซึ่งครั้งนี้ตั้งใจมาปีนเขาถ่ายภาพโดยเฉพาะ ถึงแม้ว่าเส้นทางบางช่วงจะลำบากก็ขอสู้ และร่างกายยังมีความแข็งแรงอยู่ ซึ่งต้องมีสติเท่านั้นเพราะทุกย่างก้าวอันตราย แต่ก็ขอสู้ๆ และอนาคตถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาปีนเขาล้อมหมวกอีก จึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้มาลองปีนเขาล้อมหมวกกันเยอะๆเนื่องจากวิวด้านบนสวยงามมาก โดยเฉพาะวิว 3 อ่าวช่วงเช้าๆสวยงามมาก อาหารก็อร่อย เจ้าหน้าที่ก็มีมิตรภาพที่ดีคอยบริการดีเยี่ยม ก่อนจะเดินทางกลับลงมาก็จะต้องกราบไหว้รอยพระพุทธบาทจำลอง และ พระบรมสารีริกธาตุบนยอดเขาก่อนกลับลงมาด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่สนใจจะมาร่วมกิจกรรมปีนเขาล้อมหมวก จะต้องมีการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย และแต่งตัวให้เหมาะสมกับการปีนเขา เช่น สวมใส่รองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ สวมถุงมือ หมวก เป้ใส่สัมภาระ และน้ำ เป็นต้น เพราะเส้นทางจะมีความยากลำบากจะต้องปีนป่ายและไต่เชือก หากไม่สวมใส่รองเท้าผ้าใบและถุงมืออาจได้รับบาดเจ็บอันตรายได้ โดยการเดินทางขึ้นเขาช่วงแรกจะเป็นบันไดคอนกรีตจำนวน 496 ขั้น ก็จะถึงจุดพักกลางเขา หลังจากนั้นจะเดินเท้าตามเส้นทางธรรมชาติที่มีทั้งหินแหลมคม และความลาดชันของภูเขาหินเกือบ 90 องศา ซึ่งจะต้องใช้วิธีการโหนไต่เชือกปีนขึ้นไป โดยระยะทางไป-กลับใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยระหว่างการเดินทางจะมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 5 มาคอยยืนประจำจุด เพื่ออำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือเมื่อนักท่องเที่ยวร้องขอ ซึ่งเส้นทางที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเขาล้อมหมวก โดยจะต้องขับรถวิ่งมาตามถนนเพชรเกษม พอถึงสี่แยกไฟแดงถนนเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นก็ขับรถมาตามถนนเกาะหลัก มาเข้าประตูทางด้านหน้าของกองบิน 5 แล้วขับรถวิ่งมาตามเส้นทางที่กำหนด จอดแลกบัตรที่ป้อมสารวัตรทหาร (สห.) จากนั้นวิ่งต่อมาเรื่อยๆจนถึงเขาล้อมหมวกก็จะพบกับเต็นท์บริการซึ่งเป็นจุดแจ้งลงทะเบียน จุดแจ้งรับใบประกาศ และจ่ายค่าธรรมเนียมจำนวน 40 บาท ก่อนจะเริ่มต้นท้าทายพิสูจน์ความสามารถสู่ยอดเขาล้อมหมวก