เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"หนุ่มสลักพระ" เล่าวินาทีชีวิต ถูกช้างเหยียบ คิดว่าไม่รอดแล้ว


18 ส.ค. 2567, 11:49



"หนุ่มสลักพระ" เล่าวินาทีชีวิต ถูกช้างเหยียบ คิดว่าไม่รอดแล้ว




ความคืบหน้ากรณีช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระไล่ทำร้ายนายพัฒยา มังกะโรทัย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/7 หมู่ 4 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี หลังจากนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ได้รับแจ้งจึงรีบสั่งการให้นายชิงชัย แสนคำ ตำแหน่งบุคคลภายนอกช่วยปฏิบัติงาน ประจำหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ละมุ่น พร้อมเพื่อนร่วมงานนำกำลังเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่านายพัฒนา นั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว

 

จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ประจำอำเภอศรีสวัสดิ์ เข้าไปเคลื่อนย้ายศพออกมา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯไปยังจุดเกิดเหตุไม่ถูก นายชิงชัย แสนคำ จึงอาสาเดินออกมารับแต่ปรากฏว่าเดินออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ประมาณ 10 เมตร ช้างป่าตัวเดียวกันได้วิ่งเข้าทำร้ายนายชิงชัย อย่างรวดเร็วโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว เป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส โชคดีที่ช้างป่าตัวดังกล่าวได้เดินหายเข้าไปในป่าเสียก่อน ทำให้เพื่อนสามารถนำร่างของนายชิงชัย ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสุขศิริศรีสวัสดิ์ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ ได้ทันเวลา ก่อนที่ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นชาวงเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมาที่บริเวณชายป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ หมู่ 4 ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุดวันนี้ 17 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปเยี่ยมนายชิงชัย แสนคำ อายุ 35 ปี ขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุ อาคารกาญจนาพิเษก (กจ)ชั้น 1 โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เมื่อไปถึงพบนายเชน แสนคำ อายุ 58 ปี พ่อของนายชิงชัย คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

 

จากสภาพพบว่าบริเวณใบหน้ารวมทั้งดวงตาทั้ง 2 ข้างมีรอบเขียวช้ำ มีสายยางเจาะที่บริเวณปอด แต่นายชิงชัย ยังพูดจาตอบโต้ได้ตามปกติ โดยนายชิงชัย เล่าว่าตนได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก 8 ซี่ ปวดบวมช้ำ ส่วนดวงตามองตามแสงไฟไม่ชัด ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 16 ส.ค.เวลาประมาณ 13.30 น.ตนได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านถูกช้างป่าไล่ทำร้ายที่บริเวณชายป่าที่เป็นดงไผ่ หลังจากนั้นตนกับเพื่อนจึงรายงานให้หัวหน้าไพฑูรย์ทราบ ซึ่งขณะนั้นพวกตนยังไม่ทราบว่ากลุ่มชาวบ้านที่ถูกช้างป่าไล่ทำร้ายเป็นอย่างไรกันบ้าง จากนั้นหัวหน้าไพฑูรย์ จึงสั่งการให้พวกตนเข้าไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบว่านายพัฒยา มังกะโรทัย  ชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตแล้ว จึงรีบรายงานให้หัวหน้าทราบ  พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

 

ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่าเข้ามายังจุดเกิดเหตุไม่ถูก ตนจึงอาสาเดินออกไปรับโดยให้เพื่อนที่มาด้วยกันเฝ้าศพเอาไว้ ซึ่งเส้นทางที่เดินเป็นป่าไผ่โดยตนเดินออมาจากจุดเกิดเหตุได้ประมาณ 10 เมตรเท่านั้น ก็มาถูกช้างป่าวิ่งไล่โดยไม่รู้ว่าช้างป่าซุ่มอยู่บริเวณใด เมื่อตนเห็นช้างจึงพยายามวิ่งหลบหนีจนสุดชีวิตแต่สุดท้ายก็มาสดุดล้มลงกับพื้นจึงถูกช้างป่าตัวดังกล่าวใช้เท้าเหยียบเข้าที่แผ่นหลังอย่างแรง ครั้งแรกที่ถูกช้างเหยียบตนรู้ตัวแล้วว่าคงจะไม่รอดและได้ยินเสียงซี่โครงหักดังมาจากข้างใน

 

เพื่อนที่มาด้วยกันพยายามตะโกนไล่แต่ก็ถูกช้างป่าตัวดังกล่าววิ่งพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว แต่ทุกคนก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ แต่ก็ยังโชคดีที่ช้างตัวดังกล่าวใช้บริเวณอุ้งตีนที่เป็นส่วนนิ่มเหยียบที่หลังของตนหากใช้ส่วนที่เป็นสันตีนเหยียบตนก็คงจะไม่รอดอย่างแน่นอน ระหว่างนั้นเหลือบไปมองเห็นโทรศัพท์ตกอยู่กับพื้น จึงแข็งใจเข้าไปเอาแล้วรีบโทรแจ้งให้เพื่อนที่กำลังตามหาตนอยู่ให้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลได้อย่างทันท่วงที”นายชิงชัย แสนคำ ตำแหน่งบุคคลภายนอกช่วยปฏิบัติงาน ประจำหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ละมุ่น  กล่าว

 

ด้านนายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นผมได้มอบเงินส่วนตัวให้กับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ของเราไปแล้ว 5 พันบาท จากนี้เราจะมาดูเรื่องสวัสดิการของผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งผมได้รายงานไปยังกรมอุทยานฯแล้ว การดูแลเรื่องความสูญเสียทางกรมอุทยานฯน่าจะมีให้ในภายหลังแต่ต้องรอเวลาไปสักระยะหนึ่งก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐอยู่ แต่หากมีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม ผมก็จะดูแลในนามส่วนตัวไปก่อน


 



 

 

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น ประเด็นนี้เราต้องมาดูหลักการให้ดีก่อน เพราะชาวบ้านที่เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระนั้นเหมือนเป็นการสมัครใจหรือลักลอบเข้าไปเอง ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้นั้นเป็นพื้นที่ค่อนข้างอันตรายโดยคนในพื้นที่ต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของเราได้พยายามเตือนไปแล้ว เราเอาป้านเตือนไปติดเอาไว้ ก็ถูกนำไปเผาทิ้ง ป้ายห้ามตกหรือหาปลาบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ที่นำไปติดเอาไว้ก็ถูกเผาทำลายทั้งหมด ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ การลักลอบเข้าไปในพื้นที่ก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว ดังนั้นการที่กรมอุทยานฯจะช่วยเหลือเยียวยาก็คงจะต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งว่าทำได้หรือไม่  แต่ทางจังหวัดกาญจนบุรี มีแนวทางเยียวยาให้กับญาติผู้สูญเสียอยู่แล้ว


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.