2 สามีภรรยา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะตนเองและภรรยาพร้อมลูกสาววัย 17 ปี ได้เข้าไปนอนรวมกันอยู่ในห้องนอนที่ติดแอร์ภายในบ้านเนื่องจากอากาศร้อน โดยล็อกประตูใส่กลอนบ้านไว้ทั้งหมด ยกเว้นหน้าต่าง 1 บาน ซึ่งเปิดกระจกปิดแต่มุ้งลวดไว้อย่างเดียว เพื่อระบายให้อากาศถ่ายเท และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นในขณะที่ตนเองกับครอบครัวนอนอยู่ในห้องนอนของบ้าน ได้มีโจรปีนกำแพงเข้ามาในบ้านแล้วคาดว่าเข้ามาทางช่องหน้าต่างเข้ามารื้อค้นหาทรัพย์สินภายในบ้าน ได้เงินสดไปประมาณ 1,000 บาท จากนั้นได้เอากุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋าไปไขเปิดหน้ารถยนต์ และรถเก๋งที่จอดอยู่รื้อค้นในลิ้นชัก และบริเวณหน้ารถเพื่อหาทรัพย์สิน จากนั้นได้เอาโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ไปด้วย ระหว่างนั้นได้เปิดเข้าไปในห้องที่ตนนอนอยู่กับลูกสาววัย 17 ปี แล้วแกะมือลูกสาวหยิบเอาโทรศัพท์มือถือจากมือของลูกสาวที่กำลังถืออยู่ขณะหลับเอาไปด้วย เมื่อลูกสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นคนร้ายจึงได้เอาโทรศัพท์ และเงินสดที่ได้วิ่งหลบหนีไป ซึ่งคาดว่าน่าจะออกไปทางประตูห้องเก็บสต๊อกขนม มูลค่ารวมความเสียหายกว่า 10,000 บาท ประกอบด้วย เงินสดประมาณ 1,000 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 6 เครื่อง ซึ่งขณะนี้อาการของลูกสาวอยู่ในอาการหวาดผวากับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่กล้านอนอยู่ในห้องคนเดียว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณตี 4 ของเช้าวันที่ 17 ส.ค.67 ที่ผ่านมา และได้ไปแจ้งความกับตำรวจไว้ที่โรงพักไว้แล้วในเช้าวันเดียวกัน ซึ่งวันนี้วันที่ 19 ส.ค.67 ผ่านไปแล้วเกือบ 3 วัน ยังไม่เห็นวี่แววของตำรวจที่จะมาตรวจสอบเก็บหลักฐาน และลายนิ้วมือแต่อย่างใด ตนเองยอมรับที่ประมาทเลินเล่อ และชะล่าใจที่ไม่ได้ป้องกันระวังทรัพย์สินของตนเองให้ดี เนื่องจากไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นกับตัว และเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะเช่นนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีทรัพย์สินสูญหายจึงไม่ได้แจ้งความ ส่วนบ้านอื่นๆก็เคยเกิดเหตุถูกลักขโมยเช่นกัน จึงคาดหวังพึ่งตัวเองมากกว่า และ อยากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์กับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ จึงได้สั่งกล้องวงจรปิดเพื่อมาติดตั้งภายในบ้านแล้ว และคงจะต้องระมัดระวังป้องกันทรัพย์สินของตนเองให้มิดชิดมากกว่านี้