วันนี้ ( 19 ส.ค.67 ) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ว่า หลังดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก เพราะเป็นทางเลือกใหม่ เป็นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุขรูปแบบใหม่จากรัฐบาล นอกจากไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือหน่วยบริการประจำตามสิทธิแล้ว ยังมีการเพิ่มทางเลือกใหม่ ให้รับบริการที่ร้านยาและคลินิกเอกชน ทั้งคลินิกทันตกรรม, กายภาพบำบัด, แพทย์แผนไทย, พยาบาล และคลิกนิตรวจแล็บ ที่เข้าร่วมเป็นหน่วยนวัตกรรมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนหาหมอหลังเลิกงานได้ ซึ่งการดำเนินโครงการ มีผลสำเร็จที่ชัดเจนคือ ระยะเวลาใช้บริการลดลงกว่าครึ่ง จาก 127 นาที/ครั้ง เหลือ 56 นาที/ครั้ง ลดค่าใช้จ่ายของประชาชน เฉลี่ยลดลง 160 บาทต่อครั้ง ลดการขาดงานของญาติและผู้ป่วย

นอกจากนี้ ยังพบผลลัพธ์ที่สะท้อนความสำเร็จ คือสามารถลดการเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่ หรือ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ,ประชาชนไปรักษานอกเวลาราชการได้ ที่หน่วยบริการนวัตกรรม ,จำนวนผู้ป่วยใช้บริการข้ามเครือข่าย ในระยะที่ 1 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ ระยะ 2 มีจำนวนลดลง ,หน่วยบริการนวัตกรรม เป็นทางเลือกแรกของผู้ป่วย พบผู้ป่วยมากกว่า 1 ใน 4 เลือกใช้บริการในหน่วยนวัตกรรม ,ผู้ป่วยที่มาใช้บริการในหน่วยนวัตกรรมมากกว่า 2.6 ล้านคน หรือ 5.6 ล้านครั้ง โดยใช้เวลารอคอยไม่เกิน 30 นาที

จะเห็นได้ว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนการ Kick off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ สปสช. ได้เตรียมความพร้อมแล้ว พร้อมเตรียมระบบสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อคอยให้บริการประชาชน โดยเบื้องต้นได้เปิดช่องทางพิเศษ สายด่วน สปสช. 1330 กด 6 เป็นการเฉพาะ รองรับประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีข้อติดขัดในการเข้ารับบริการ