ชาว อ.ท่าตูม ผวา! แบงค์พันปลอมระบาด พ่อค้าแม่ค้าเจอไป 2 ใบ
21 ส.ค. 2567, 16:46
วันนี้(วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่ตลาดสดอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ พบว่ามีเหตุการใช้แบงค์ปลอมซื้อของกัน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่าเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ร้านขายปลาดุกทอด หมูทอด และข้าวเหนียว หมูปิ้ง ซึ่งเป็นร้านของยาย ทองใส ศิริสร อายุ 63 ปี เป็นชาว ต.ทุ่งหลวง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยคุณยายบอกว่า ตนมาหากินอยู่ในตลาดสดอำเภอท่าตูมเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ก็ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน จนกระทั่งเมื่อคืนตอนประมาณตี 05.45 น. ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาขอซื้อหมูปิ้ง ในราคา 100 บาท แต่ให้แบงค์พันมา ยายใสก็เลยเอาเงินแบงค์พันดังกล่าวไปขอแลกแบงค์ย่อยกับผู้ค้าด้วยกันในตลาด เพื่อจะเอาเงินมาทอนให้ลูกค้า แต่ไม่มีใครกล้าให้แลก เพราะกลัวเป็นแบงค์ปลอม ซึ่งตนก็ได้แต่บ่นพึมพำด้วยตัวเองว่า จะเป็นแบงค์ปลอมอยู่บ่ แต่ก็ตัดสินใจล้วงเอาแบงค์ย่อยที่ตนพอมีอยู่ทอนให้ลูกค้าไป ซึ่งพอลูกค้าได้ตังค์ทอนเสร็จก็รีบเดินจากไปเลย ต่อมาตนก็เริ่มเกิดอาการสงสัย จึงได้เอาแบงค์พันดังกล่าว ลองเอาไปใส่ในน้ำดู ซึ่งก็พบว่าสีของแบงค์ได้ละลายออกมาลายเป็นสีดำ จึงได้รู้ว่าเป็นแบงค์ปลอมแน่นอน จากนั้นตนจึงรีบเดินทางไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ท่าตูม เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามเอาตัวคนที่เอาแบงค์ปลอมมาซื้อของตนให้ จะได้ไม่ไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีกต่อไป
ซึ่งจากการเปิดดูกล้องวงจรปิดที่มีติดตั้งอยู่ภายในตลาด ก็พบว่า ในเวลาดังกล่าว (ภาพมุมด้านบนกล้อง) มีผู้ต้องสงสัยเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่เสื้อคลุมสีดำ กำลังยืนซื้อของที่หน้าร้านคุณยายทองใส ศิริสร ซึ่งขายปลาดุกทอด หมูทอด และข้าวเหนียว หมูปิ้ง ก่อนจะเดินออกจากร้านไป
และอีกราย ต่อมาไม่นาน เมื่อตอนสายๆของวันเดียวกันนี้ ก็ได้มีคนโทรมาแจ้งผู้สื่อข่าวอีกว่า เช้าวันนี้ก็มีคนเอาแบงค์พันปลอมมาซื้อของอีก โดยครั้งนี้โดนเข้ากับคุณยายขายผักในตลาดอำเภอท่าตูมอีก นั่นก็คือคุณยาย คำกอง สาพันธุ์ อายุ 62 ปี เป็นชาวบ้านหนองบัว ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
โดยคุณยายได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพขายผักอยู่ในตลาดอำเภอท่าตูมมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ขายผักมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่พอเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมากับกลุ่มผู้หญิงผู้ชายประมาณ 5-6 คน ได้มาเลือกซื้อผัก ต้นหอม ผักชี ราคาประมาณ 180 บาท ซื้อเสร็จก็ควักแบงค์พันจ่าย ซึ่งตนรับแบงค์พันมาได้ก็ใส่กระเป๋าไว้ แล้วก็หยิบเงินทอนให้ไป โดยไม่ได้สังเกตอะไร แต่พอลูกค้าออกจากร้านไปได้สักพักใหญ่ ตนก็เลยหยิบเอาเงินแบงค์พันดังกล่าวออกมาดูอีกที ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นแบงค์พันปลอม ทำให้ตนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ไม่นึกว่าจะมาเจอกับตัวเอง เลยต้องรีบไปแจ้งความเอาไว้ เพื่อป้องกันการกลับมาก่อเหตุของพวกใช้แบงค์ปลอม มาซื้อของกับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอีก และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนได้ใช้ความระมัดระวังกันไว้ด้วย หากได้รับเงินแบงค์พันจากลูกค้าที่มาซื้อของ จะต้องตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่า ไม่ใช่แบงค์ปลอมก่อนจะทอนเงินให้ไป จะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำขึ้นมาได้อีก