จากกรณีที่ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ น้องข้าวฟ่าง นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คว้าเหรียญเงิน โอลิมปิก เกมส์ ปารีส 2024 จากกีฬายกน้ำหนัก รุ่น 61 กิโลกรัมชาย โดยยกท่าสแนตช์ รวม 132 กก. ก่อนต่อด้วย คลีน แอนด์ เจิร์ก ที่ผ่านฉลุยทั้ง 3 ครั้ง 171 กก. รวมทั้งสิ้น 303 กก.

 

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอขุนหาญ พร้อมด้วย นายนำชัย ปิติขุนหาญ นายกเทศมนตรีตำบลกระหวัน ได้มีการจัดขบวนแห่เชิดชูเกียรติ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย หรือ น้องข้าวฟ่าง นักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ที่ไปคว้าเหรียญเงิน ในระดับโอลิมปิก และ  น้องลาด นายบรรจง สินศิริ นักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ที่เป็นคนขุนหาญ และเป็นคนบ้านเดียวกันกับ น้องข้าวฟ่าง

 

ทั้งนี้ สำหรับขบวนแห่เชิดชูเกียรติ เริ่มต้นตั้งแต่วงเวียนต้นมันปลา ตำบลสิ อำเภอขุนหาญ มายังเทศบาลตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น มีชาวอำเภอขุนหาญออกมาต้อนรับ ถ่ายรูป พร้อมมอบดอกไม้ โบกไม้โบกมือเป็นกำลังใจและร่วมยินดีอย่างคึกคัก  โดย นายเษม ศิลาชัย พ่อของข้าวฟ่าง นั่งบนรถขบวนแห่ด้วย และยกมือไหว้ขอบคุณประชาชนที่มาให้การต้อนรับตลอดเส้นทาง

 

นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอขุนหาญ เปิดเผยว่า  อำเภอขุนหาญได้ร่วมกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และที่สำคัญคือทางเทศบาลตำบลกระหวัน ที่เป็นแกนนำหลักในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้  เพื่อเชิดชูเกียรติให้กับน้องข้าวฟ่าง และน้องลาด  เพราะทั้งสองคน เป็นชาวตำบลกระหวัน อำเภอขุนหาญ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ  โดยในวันนี้เรามีขบวนแห่ที่พี่น้องชาวตำบลกระหวัน ทุ่มเทร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อเป็นกำลังใจและยินดีกับฮีโร่โอลิมปิกของเรา ในส่วนเงินอัดฉีด อำเภอขุนหาญ มีกองทุนคนขุนหาญไม่ทิ้งกัน เบื้องต้นมีเงินสนับสนุน จำนวน 10,000 บาท ให้กับน้องข้าวฟ่าง และ เงินสนับสนุน อีก จำนวน 5,000 บาท ให้กับน้องลาด พร้อมใบประกาศเกียรติคุณให้ด้วย

 

ขณะที่น้องข้าวฟ่าง หลังขบวนแห่เสร็จสิ้น ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า  ตั้งแต่ตนกลับบ้านมาเมื่อวานนี้ ( 22 สิงหาคม 2567 )  ในช่วงเช้า ก็ได้เดินทางไปพบ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนในช่วงบ่ายก็กลับมาพักผ่อน และมีรับประทานอาหารกับทางครอบครัวในช่วงเย็น ซึ่งได้พุดคุยกับทางคุณพ่อบ้าง และมีของมาฝาก โดยซื้อโทรศัพท์ และมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ไว้ โดยในส่วนหลังจากนี้จะทำอะไรต่อไปตนขอคุยกับทางครอบครัวก่อน

น้องข้าวฟ่าง กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมในวันนี้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีคนมาต้อนรับตนมากขนาดนี้  และตนไม่คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตตนจะประสบความสำเร็จได้มากขนาดนี้  ตนนั้นรู้สึกภูมิใจมาก แม้ตนจะเหนื่อย แต่ทุกคนมาต้อนรับตนขนาดนี้  ตนก็ต้องแสดงอาการว่าไม่เหนื่อย ในส่วนของคุณพ่อ ตนต้องขอขอบคุณคุณพ่อเป็นอย่างมาก แม้จะไม่ได้เลี้ยงดูตนมากมาย แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้ตนได้เกิดมา ซึ่งตนต้องขอขอบคุณตรงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่น้องข้าวฟ่างให้สัมภาษณ์แล้วเสร็จได้โอบกอดกับทางนายเษม พ่อของน้องข้างฟ่าง เพื่อเป็นการต้อนรับกลับบ้าน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน