รวบ "โต้ง จอมตุ๋น" สร้างโปรไฟล์น่าเชื่อถือ นำสำเนาปลอมขอสินเชื่อ เสียหายกว่า 1.7 ล้าน
29 ส.ค. 2567, 14:25
วันที่ 29 ส.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.รรท ผกก.3 บช.น. พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ปรินทร์ ส่วนบุญ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.นิคม นาชัยภูมิ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.,ทำการจับกุมตัว นายอภินันท์หรือโต้ง คัมภิรานนท์ อายุ 51 ปี ที่อยู่ 1417/7 ถ.ริมทางรถไฟ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.772/2567 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ความผิดฐาน “ฉ้อโกง และปลอมเอกสาร” โดยจับกุมหน้าร้านขายอะไหล่ ถ.ริมคลองบางค้อ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
โดยพฤติการณ์การกระทำความผิด คือ ด้วยนายอภินันท์ฯ นำสำเนารายการเดินบัญชีธนาคาร และหนังสือรับรองเงินเดือนปลอมสร้างโปรไฟล์น่าเชื่อถือ มายื่นขอสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์กับทางธนาคารผู้เสียหายในคดี จนได้รับอนุมัติสินเชื่อไป ซึ่งตีเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,741,041 บาท แล้วบิดพริ้วหนีหายเข้ากลีบเมฆไม่มีการผ่อนชำระกับทางธนาคารแต่อย่างใด โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหานั้นยากต่อการสืบสวนเป็นอย่างมาก ขาดการติดต่อในทุกช่องทาง และมีที่อยู่พักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง แต่ไม่ยากเกินความสามารถเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ซึ่งชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีทำงานพนักงานส่งสินค้าอยู่ที่ ร้านขายอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์ร้านหนึ่ง ย่านจอมทอง กรุงเทพมหานคร จึงได้ตามไปรวบทันควัน
ขณะจับกุมปฏิเสธไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อสอบถามแล้วรับว่าหลังจากรับเงินแล้วเอาเงินไปใช้หมดแล้ว จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่ง สน.ตลาดพลู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ด้วยนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่มีพฤติการณ์การกระทำความผิดในรูปแบบต่างๆที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนหรือผู้สุจริต โดยผู้ต้องหารายนี้ทำเอกสารหลอกกู้สินเชื่อกับธนาคาร ความเสียหายกว่า 1.7 ล้านบาท เกรงว่าจะไปก่อเหตุที่อื่นต่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ และฝากเตือนประชาชน และผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่ปลอมโปรไฟล์ให้น่าเชื่อถือด้านการเงินให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ