วันที่ 31 ส.ค. 67  ระวังภัยมิจฉาชีพเปลี่ยนแผนใช้แบงค์ร้อยหลอกซื้อสินค้าแทนแบงค์พันแม่ค้าและพ่อค้าโดนหลอกกันไปหลายราย  เหตุเกิดบริเวณตลาดสดเทศบาล 2  ตำบลตลาดหลวง  อำเภอเมือง  จังหวัดอ่างทอง  มิจฉาชีพไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่  ออกอาละวาดเดินซื้อสินค้าของพ่อค้าและแม่ค้าในตลาดอ่างทอง  โดยจะซื้อสินค้าของกินในราคาที่มีมูลค่าไม่แพง  โดยจะจ่ายเงินค่าซื้อสินค้าเป็นแบงค์ร้อยแทนแบงค์พัน  ซึ่งพ่อค้าและแม่ค้าบางรายจะระมัดระวังในการรับจ่ายเงินเป็นแบงค์พัน  เพื่อความปลอดภัยในการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง  คิดว่ารับเป็นแบงค์ร้อยจะไม่ถูกปลอม  แต่ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกซื้อสินค้าแล้วจ่ายแบงค์ร้อยปลอมมาหลายเจ้า  ซึ่งมิจฉาชีพอาศัยจังหวะที่พ่อค้า แม่ค้า กำลังยุ่งอยู่กับการขายสินค้า  และไม่ทันสังเกตแบงค์ร้อยปลอม  ที่มีลักษณะสีเหมือนแบงค์ร้อยจริงแต่ซีดกว่า  แต่ผิวสัมผัสแตกต่างจากแบงค์จริง  มีผิวหยาบ  และแถบฟอยด์ 3 มิติ  จะไม่ชัดเจน  ต้องสูญเงินทอนกันไปรวมแล้วหลายร้อยบาท
 จากการสอบถาม นาง กมลพรรณ อายุ 70 ปี แม่ค้าขายข้าวโพดต้ม  เล่าให้ฟังว่า  ตนเองเปิดร้านขายข้าวโพดต้มอยู่ในตลาดสดเทศบาล  ช่วงเช้าที่ผ่านมา  มีลูกค้ามาอุดหนุนเยอะขายดีมาก  ตนเองขายข้าวโพดต้มรับเงินจากลูกค้าจึงไม่ได้ทันสังเกต  พอมาช่วงสายได้นำเงินที่ขายได้ออกมาดู  พบว่ามีแบงค์ร้อยอยู่หนึ่งใบ  หมายเลข ๕ ฉ ๔๔๕๐๐๔๖ หรือ 5 G 4450046  มีลักษณะสีซีดแตกต่างจากใบอื่น  และผิวสัมผัสก็ไม่เหมือนกัน  เมื่อนำไปให้เพื่อนแม่ค้าในตลาดดู  ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นแบงค์ปลอม  ซึ่งตนเองอยากเตือนภัยพ่อค้า แม่ค้าด้วยกันว่าแบงค์ร้อยปลอมเริ่มละบาดให้ใช้ความระมัดระวัง  ขนาดตนเองระวังในการรับเป็นแบงค์พันแล้ว  ก็ยังไม่วายโดนแบงค์ร้อยปลอม  ฝากถึงมิจฉาชีพให้เห็นอกเห็นใจพ่อค้า แม่ค้าบาง  ขายของหวังจะได้ทุนคืนและกำไรไปลงทุนต่อ  ต้องมาถูกมิจฉาชีพหลอกจนได้

 ด้านพ่อค้าและแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองอ่างทอง  หลังจากทราบข่าวก็ได้ทำการกระจายข่าวให้เพื่อพ่อค้า และแม่ค้าในตลาดสดเทศบาลได้รับรู้  ว่าให้ใช้ความระมัดระวังและสังเกตให้มากขึ้นก่อนที่จะรับเงินในการซื้อสินค้าจากลูกค้า  เพราะจากการสังเกตพฤติกรรมที่ตกเป็นเหยื่อ จะเป็นคนสูงวัย  และจะเลือกก่อเหตุในช่วงที่มีลูกค้า  ทำให้เหยื่อไม่มีเวลาสังเกตและตรวจทาน  จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพต่อไป