ภรรยาร้องขอความเป็นธรรม สามีถูกไฟดูดดับ
1 ก.ย. 2567, 15:05
วันที่ 1 กันยายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีผู้ใช้สื่อโซเชียล ชื่อนายรัชชานนท์ ชูวงษ์วาลย์ ได้โพสต์เรื่องราวเพื่อขอความเป็นธรรมพร้อมแจ้งกรณีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต โดยได้ระบุว่า เมื่อวันจันทร์ ที่ 26 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 17.30 น. ได้มีบุคคลถูกไฟฟ้าช็อต จนเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุจาก ผู้ที่มีอำนาจ สนิทกับการไฟฟ้า ได้ทำการลากจูงสายไฟจากที่บ้านตัวเอง มาใช้อีกทีนึง และสายไฟได้เกิดชำรุด ร่วงมายังพื้นที่บ้านพาดกับต้นไม้ข้างบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครอบครัวได้แจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าให้มาตรวจสอบ การไฟฟ้าแจ้งว่าไม่มีสายไฟและไม่ดำเนินการตัดสายไฟออกให้ ยังปล่อยให้สายไฟอยู่บริเวณบ้านผู้เสียชีวิต แจ้งไปทางเจ้าของที่เป็นเจ้าของสายไฟก็ไม่ดำเนินการ
จนกระทั่งก่อนวันที่เกิดเหตุ ได้มีพายุเข้าบริเวณพื้นที่ ทำให้สายไฟล่วงจากต้นไม้ลงมา ทางผู้เสียชีวิตพบเห็นในวันที่ 26 ส.ค. 67 จึงทำการหยิบยกขึ้นไปวางให้พื้นทาง เกรงจะเกิดอันตราย แต่ผู้เสียชีวิตกลับถูกไฟฟ้าจากเส้นนั้น ดูด จนหมดสติ ทางแพทย์และกู้ภัยได้ทำการช่วยเหลือ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นเจ้าของสายไฟได้มาแอบตัด ในระหว่างที่บุคคลในบ้าน ไปรวมกันที่โรงพยาบาลเพื่อดูผู้เสียชีวิต ทางเจ้าของสายไฟในตอนแรกบอกยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง จนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงซึ่งเป็นคืนสุดท้ายในการบำเพ็ญกุศล ทางเจ้าของสายไฟได้มาเจรจา แต่ไม่ยอมรับข้อเสนอ และยังบอกไม่ใช่ความผิดของตน เนื่องด้วยเจ้าของสายไฟ เป็นผู้มีอิทธิพล และรู้จักผู้ใหญ่ในพื้นที่ ทางครอบครัว เกรงกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่รู้จะติดต่อสื่อยังไง จึงขอช่วยเป็นกระบอกเสียง และในวันพรุ่งนี้ คือวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน 2567 เวลา 16.00 น. ทางครอบครัวจะแถลงการต่อผู้ร่วมงานว่าจะขอเก็บร่างไว้เพื่อนประท้วง แต่ความไม่ยุติธรรม และความไม่โปร่งใส ของการทำงาน ณ ศาลาแม่จา วัดบางช้างใต้ อ.สามพราน จ.นครปฐม
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังพิธีสวดพระอภิธรรมศพของ นายไพชยนต์ มีรักษา อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 29 หมู่ 8 ต.บางช้าง อ.สาพราน จ. นครปฐมซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายที่ถูกไฟฟ้าช็อต ทั้งนี้ได้สอบถามนางแววดาว จันทร์กระจ่าง อายุ 37 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวจะขอประท้วงยังไม่เผาศพ เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงขอเก็บศพไว้ก่อน หากเผาไปแล้วหลักฐานทุกสิ่งทุกอย่างคงหายไปไปหมดและยากต่อการที่ดำเนินคดีเอาผิดกับคู่กรณี
นางแววดาว เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาคู่กรณีได้เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น อ้างว่าขอให้เผาศพให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งหลายวันก่อนได้มีการตกลงกันที่สถานีตำรวจ ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ สำหรับสายไฟฟ้าที่เข้าใจว่าเป็นของการไฟฟ้านั้น ได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของการไฟฟ้า เป็นของชาวบ้านที่เดินสายพาดผ่านไว้เพื่อใช้ในสวน หรือเพื่อต่อ ไปใช้ในส่วนนั้นเอง โดยมีการเช็คกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและแจ้งกลับมาแล้วว่าไม่ใช่ของการไฟฟ้า เป็นการต่อสายมาจากหม้อแปลงส่วนบุคคลเป็นของชาวบ้าน เมื่อมีการพูดคุยตกลงกันไม่ได้ โดยตรงเสนอ ให้ชดใช้ เงินจำนวน 5 ล้านบาท แต่ถูกต่อรองเหลือเพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเราคิดว่าสิ่งที่เราสูญเสียหากเปรียบเทียบกับชีวิต 1 คน มันมากกว่านั้น เนื่องจาก ผู้ตายยังมีอาชีพ ยังมีลูกวัย 6 ขวบ ที่ยังต้องเรียนและยังมีภาระพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดู หากมีชีวิตอยู่คงจะมีรายได้มากกว่านี้
"ตอนนี้ไม่อยากพาดพิงใครเลย ไม่อยากพูดถึงคู่กรณี ทราบว่าทำรับเหมาเกี่ยวกับการติดตั้งเสาไฟฟ้าและ แต่เป็นบริษัทของ supplier เรากลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องใช้สื่อช่วย ที่ผ่านมาไม่สามารถตกลงกันได้จึงขอประท้วงไม่เผาศพ แต่ทำพิธีตามปกติ วางดอกไม้จันทน์ แต่ยังคงเก็บศพไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งเมื่อคืนได้มีการพูดคุยกับคู่กรณี โดยตนเองได้ย้อนถามกลับไปว่าหากเป็นคุณ คุณจะเรียกเงินเราเท่าไหร่ แต่คำตอบไม่มี จากนั้นนางสาวแววดาว ภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ไปเคาะโลงศพเรียกผู้ตาย เพื่อให้สู้ไปด้วยกัน" นางแววดาว กล่าวปิดท้าย
นายเอก (นามสมมติ) กู้ชีพซึ่งเป็นญาติของผู้ตายบอกว่า ในวันเกิดเหตุได้มีการรับแจ้งเหตุว่ามีผู้ถูกไฟฟ้าช๊อต เมื่อมาดูในที่เกิดเหตุจึงทราบว่าเป็นญาติของเราเองโดยสภาพศพที่เห็นก็คือมีรอยไฟฟ้าช็อตอยู่ที่ง่ามมือ และมีรอยไหม้ซึ่งคนที่ช่วยเหลือชีวิตเป็นแม่ยายก็ได้รับบาดเจ็บไปด้วยโชคดีที่ร่างกายแห้งจึงไม่ได้ถูกไฟช็อตตามลูกเขย ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากสายไฟฟ้าที่มีคนลากออกมาจากจุดที่ต่อจากสายของการไฟฟ้า และมาพาดอยู่ที่ต้นไม้ซึ่งทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าสามพรานให้เข้ามาตรวจสอบแล้ว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแล้วก็ได้มีการแจ้งว่าสายไฟฟ้าเส้นนั้นไม่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ ซึ่งจากการคาดคะเนว่าเมื่อมีการแจ้งว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าในสายไฟแล้วผู้เสียชีวิตนั้นประสบเหตุได้อย่างไร
นายเอก บอกว่า สาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากความสะเพร่าของทั้งผู้ที่รากสายออกมาจากเสาของการไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าที่เข้ามาตรวจสอบ และเท่าที่ทราบมาก็คือผู้ที่เป็นเจ้าของสายไฟก็เป็นผู้รับเหมาของการไฟฟ้า ไม่ทราบว่าจะมีการนัดแนะกันหรือไม่อย่างไร ส่วนหลังจากการเกิดเหตุทางภรรยาของผู้เสียชีวิตได้มีการติดต่อประสานงานไปยังการไฟฟ้าสามพรานและได้ขอเอกสารในการแจ้งว่าไม่มีกระแสไฟอยู่ในสายไฟเส้นนั้น รวมถึงภาพถ่ายและหลักฐานอื่นๆประกอบมาด้วย
"ผมคาดว่าสาเหตุของการถูกไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิตเนื่องจากก่อนหน้าหนึ่งวันในพื้นที่อำเภอสามพรานได้มีการเกิดพายุและมีลมแรงเป็นสาเหตุที่ทำให้สายไฟที่พาดอยู่บนต้นไม้ตกตกตกลงมาที่พื้นซึ่งผู้ตายได้ทราบมาแล้วว่าสายไฟเส้นดังกล่าวไม่มีกระแสไฟฟ้าอยู่โดยเมื่อเห็นตกอยู่พื้นจึงได้เอามือไปจับและจึงเกิดการถูกไฟฟ้าช็อตอย่างรุนแรงโดยแม่ยายที่เห็นจึง ได้วิ่งเข้าช่วยเหลือกระทั่งตัวเองได้บาดเจ็บไปด้วยโชคดี ที่วันดังกล่าวลูกชายคนเล็กของผู้ตายไม่มาวิ่งเล่นพร้อมกับพ่อในวันนั้นด้วยเพราะหากอยู่ในเหตุการณ์ก็อาจจะถูกไฟฟ้าช็อตไปอีกหนึ่งราย" นายเอกกล่าวปิดท้าย