วันนี้ ( 8 ก.ย.67 ) นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากการคาดการณ์ปริมาณฝนช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มจะมากกว่าค่าเฉลี่ยของช่วงฤดูฝน ทำให้เกิดฝนตกหนักขึ้นในหลายพื้นที่ ประกอบกับ ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” หลังจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชัน ส่งผลให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก เช่นเดียวกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ไทยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรีและตราด โดยคาดการณ์ฝนจะตกหนักต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.67) ขณะที่ภาคตะวันออกจะมีฝนต่อเนื่องจนถึงวันที่ 16 กันยายน 

จึงให้กรมชลประทานและกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ทยอยพร่องระบายน้ำในอ่างที่มีปริมาณน้ำมากอยู่แล้วรองรับฝนที่จะตกมาเพิ่ม โดยแจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้าผ่านช่องทางต่างๆ กรมทรัพยากรน้ำ ติดตั้งเครื่องมือแจ้งเตือนและสร้างเครือข่ายการแจ้งเหตุเตือนภัยให้ครอบคลุมพื้นที่และเข้าถึง  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตรียมแนวทางการแจ้งเตือนภัย ให้ความช่วยเหลือ จัดเตรียมสถานที่พักพิง และเยียวยาฟื้นฟูให้กับประชาชนที่รับผลกระทบ 

ทั้งนี้ สทนช. ยังกำชับให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกควรพิจารณาปรับปรุงเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำ (rule curve) ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของฝนในปัจจุบัน และพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์เป็นรายวันเพื่อเสริมประสิทธิภาพ โดยต้องบริหารจัดการในระดับลุ่มน้ำและระหว่างลุ่มน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือตำรวจจราจรช่วยสื่อสารแจ้งเตือนระดับน้ำในเส้นทางเดินรถต่างๆ ในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง

สำหรับสถานการณ์น้ำในภาคตะวันออก พบมีปริมาณน้ำรวมประมาณ 1,661 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีแหล่งน้ำต้องเฝ้าระวังน้ำมาก แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนบดินทรจินดา  แหล่งน้ำขนาดกลาง และแหล่งน้ำขนาดเล็ก เช่น อ่างเก็บน้ำคลองสีเสียดนครนายก รวมทั้ง คาดการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต้องเฝ้าระวังน้ำมาก คือ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำประแสร์ และเขื่อนนฤบดินทรจินดา

ที่มา : thainews.prd