หนุ่ม นศ. มหาลัยดัง ตัดพ้อเสียใจ! จบชีวิตบนห้องพักชั้น 5
11 ก.ย. 2567, 13:04
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 เวลา 12.25 น. ที่จังหวัดนครปฐม ร.ต.ท.นพดล ศิริเลิศ รอง สว.(สอบสวน) สภ.พุทธมณทลได้รับแจ้งเหตุนักศึกษามหาวิทยาลัยดังผูกคอเสียชีวิตในหอพักดังจึงรุดไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักแห่งหนึ่งม.5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมใกล้เคียงมหาวิทยาลัยชื่อดังเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงจึงได้เดินทางไปยังห้องพักนักศึกษาอยู่บนชั้น 5 เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบร่างชายผูกคอด้วยเชือกติดกับเหล็กม่านสวมเสื้อคอกลมสีน้ำตาลกางเกงขาสั้นซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วันจากการตรวจสอบทราบชื่อต่อมานายธีรพงษ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 1 ชาวจังหวัดนราธิวาสที่มาเรียนชั้นปีที่หนึ่งห่างมาเล็กน้อยพบกระดาษมี
ข้อความว่าถ้าใครได้อ่านจดหมายนี่แปลว่าผมคงตายไปแล้วผมเคยจะพยายามฆ่าตัวตายมาหลายรอบแล้วล่ะ
แต่ไม่กล้าสักที่ จนตอนนี้ ผมทนไม่ไหวแล้วที่ ที่ต้องแบกรับ ความรู้สึกทั้งหมดผมรู้สิ่งที่ผมทำมันไม่ดีแต่ผมแค่อยากรักตัวเองบ้างปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์นี้ผมทั้งนอนไม่หลับร้องไห้ไม่หยุดไปกับสิ่งต่างๆไม่ได้มันเหนื่อยมากๆเลยนะผมผิดหวังในตัวเองมากที่ทำคนที่ผมรักเสียใจ ทั้ง พ่อ แม่ แฟนเก่าก่อนหน้าและแฟนเก่าคนล่าสุด คนล่าสุดได้ทำให้ผมรู้ว่าผมนั้นแย่แค่ไหนผมไม่เคยคิดว่าผมจำทำร้ายคนนี้ได้มากขนาดนี้แถมเรียนก็แย่ลงจะพูดถึงใครก็เกรงใจผมเสียใจที่รุ่นพี่ผมเสียมากๆแถมเครียดสะสมอีก
ผมแคร์ทุกคนเสมอครั้งนี้ผมขอแคร์ตัวเองฝากบอกเพื่อนๆว่าขอโทษนะทุกคนสำหรับแฟนเก่าทั้งสองขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ทำแย่ๆไปไม่ต้องการให้อภัยแต่ขอบคุณสำหรับทุกอย่างจริงๆขอโทษที่ทำร้ายความรู้สึกขอโทษที่เป็นแฟนที่แย่นะ
จากการสอบถามทราบว่าคุณแม่ติดต่อน้องไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานและแม่ได้โทรศัพท์ไปน้องก็ไม่รับสาวแม่ได้โทรมาที่หอพักที่น้องพักอยู่ให้ช่วยไปเคาะประตูเรียกน้องที่ห้องเหมือนจะให้น้องรับโทรศัพท์ทางแม่บ้านได้เอากุญแจสำรองมาเปิดที่ห้องของน้องเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอภาพน้องผูกคอตัวเองเสียชีวิต ซึ่งโดยปกติน้องจะเป็นคนอยากทราบอะไรก็จะสอบถามและเป็นคนเงียบๆเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครจะเล่นเกมส์เช่นโซเชียลเป็นคนชอบอยู่คนเดียวเงียบๆ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาพร้อมทั้งนำไปที่สภ.พุทธมณฑลเพื่อนำหนังสือส่งตัวผ่าชันสูตรที่นิติเวชศิริราชพร้อมทั้งประสานญาติมาติดต่อรับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป