วันที่ 11 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ของถูกของฟรีใครๆก็ชอบ ยิ่งเป็นในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ต้นทุนสูง ราคาผลผลิตตกต่ำ ทำให้หลายคนประสบปัญหาค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพที่นับวันค่าครองชีพจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆทุกวัน แต่ รายรับหรือรายได้ที่เข้าสู่ครัวเรือนมีแต่ลดลง โดยเฉพาะลูกจ้างแรงงานที่รับจ้างหาเช้ากินค่ำ และเกษตรกรชาวไร่ชาวนาชาวสวน ที่ประสบปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำแต่ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้นเรื่อยๆ ข้าวราดแกงราคา 10 บาท จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่รับประทานน้อย และมีเงินในกระเป๋าสตางค์น้อย เพื่อลดรายจ่ายในครอบครัว ร้านตำโอ่ง เป็นร้านอาหารข้าวราดแกง เปิดขายแบบบ้านๆ ง่ายๆ อยู่ภายในหมู่บ้านที่ส่วนใหญ่คนในชุมชนจะประกอบอาชีพ การเกษตร ก็คือ บ้านหนองหญ้าปล้อง หมู่ 1 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากถนนเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ฝั่งขาเข้า กทม. ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มุ่งสู่จุดพักชมวิวและลานกางเต็นท์อ่างเก็บน้ำคลองบึง โดยใครที่จะไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่อ่างเก็บน้ำคลองบึงก็จะต้องผ่านร้านตำโอ่งข้าวแกง 10 บาท โดยเจ้าของร้าน คือ คุณปาริสา ใจเสงี่ยม หรือพี่น้อย วัย 47 ปี เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวดำเนินชีวิตอยู่กับลูกสาว ซึ่งอยู่ในวัยกำลังเรียนหนังสืออีก 1 คน

 

 

 

 

 

 

 

คุณปาริษา ใจเสงี่ยม หรือพี่น้อย เจ้าของร้านเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตนเองขายข้าวราดแกงในราคา 10 บาท นี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องการช่วยลดค่าครองชีพให้กับคนที่มีรายได้น้อย และอีกอย่างตนเองทำงานด้านจิตอาสามาเยอะจึงไม่ได้หวังได้กำไรมากมายอะไร หวังแค่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องดูแลลูกให้รอดต่อไปได้ เนื่องจากในยุคนี้ข้าวของก็แพง เศรษฐกิจไม่ดี แต่รายได้ที่เข้าสู่ครัวเรือนมีแต่ลดลง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าขายราคา 10 บาท แล้วจะได้กำไรหรือไม่ พี่น้อยตอบว่าได้น้อยแต่เราเน้นปริมาณลูกค้าถึงจะคุ้มค่ากับต้นทุน แต่ถ้าลูกค้าน้อยก็ไม่คุ้มค่า และตนเองใช้วิธีลดต้นทุนด้วยการหาซื้อวัตถุดิบในหมู่บ้านแบบราคากันเองซึ่งทำให้ลดต้นทุนได้ และวัตถุดิบที่ปลูกไว้ในไร่ส่วนของตนเองอีกส่วนหนึ่ง ร้านก็ใช้พื้นที่บ้านของตนเองไม่ต้องเช่า โดยจะเปิดขายตั้งแต่เช้าจนถึง 15:00 น.ทำกับข้าวขายวันละ 10 อย่าง ซึ่งถ้าขายหมดแล้วก็หมดเลย ไม่มีทำเพิ่ม ซึ่งเวลาขายตนเองก็จะตักกับข้าวใส่จานหรือถ้วยวางเรียงไว้ในราคาจานละ 10 บาท เพื่อให้ลูกค้าเลือกหยิบเอาเอง ส่วนข้าวเปล่า 10 บาท เติมข้าวเปล่าได้ไม่อั้นจนอิ่ม ส่วนน้ำเปล่า หรือน้ำสมุนไพรแก้วละ 10 บาท เติมได้ไม่อั้นเช่นกัน โดยจะมีเมนูหลักๆเป็นพื้นฐานไว้ เช่น หลนเต้าเจี้ยวหมูสับ พะแนงหมู แกงเขียวหวาน ลาบ คอหมูย่าง ที่เหลือก็จะเป็นเมนูที่ขึ้นอยู่กับว่าจะหาวัตถุดิบอะไรได้จนครบ 10 อย่าง ส่วนใครที่มีรายได้น้อย หรือสนใจอยากลองชิมรสชาติฝีมือก็สามารถมาได้ทุกวัน หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้ หากกลัวมาเก้อก็โทรมาสอบถามได้ที่เบอร์ 089-9145058 หรือ เฟสบุ๊ค ปาริษา ใจเสงี่ยม ซึ่งได้เปิดเป็นสาธารณะเอาไว้