นายกฯ ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ชี้ทุกคนเป็นเสาหลักในการพัฒนาประเทศ
23 ก.ย. 2567, 14:59
วันนี้ ( 23 ก.ย.67 ) เวลา 10:30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า จำนวน 36 คน และมีผู้แทน จำนวน 6 คน เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ ก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ณ บริเวณโถงกลางตึกไทยคู่ฟ้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาเจอทุกคน และแน่นอนว่าเป็นที่น่าเสียดายที่จะเกษียณอายุราชการแล้ว ทำให้มีเวลาทำงานด้วยกันสั้น แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะในระหว่างช่วงสถานการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกับหลายท่าน และขอบคุณทุกท่านทุ่มเท ความรู้ ประสบการณ์ แรงกาย แรงใจในการทำงานที่ผ่านมา และทุกภาคส่วนที่ยังทำงานอยู่ ทุกคนก็เต็มที่มาก ๆ ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลืออย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะได้รับการตอบรับที่รวดเร็วมาเสมอ ตอนนี้ขออนุญาตส่งต่อความหวังดีและความห่วงใยทุกคนที่ทำงานหนัก มีอะไรขอให้ปรึกษานัดคุยนอกรอบก็ยินดีมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของปลัดแต่ละหน่วยงาน ก็มีความสำคัญมากในการทำงาน ซึ่งส่วนตัวก็ต้องการคุยกับคนที่ทำงานอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นปลัดกระทรวงต่าง ๆ ที่ต้องการแยกมาคุย มานัดพบก็ยินดีมาก ๆ ใครบอกว่า พบนายกฯ เป็นเรื่องยาก ยืนยันว่า ไม่ยาก ขอเพียงติดต่อมาในสิ่งที่เราร่วมกันแก้ปัญหาได้
“อย่าคิดว่าการพบนายกฯ เป็นเรื่องยาก ขอให้ติดต่อเข้ามาเพื่อพูดคุยว่ามีอะไรหรือไม่ที่จะได้พูดคุยทำงานร่วมกันต่อไป เราจะได้ช่วยกันพัฒนาประเทศ ทำให้ประชาชนมีความสุขต่อไป คนที่มานั่งตรงนี้มีหน้าที่และเป็นเสาหลักด้วยกันทั้งนั้น ขอให้ติดต่อมาเพื่อร่วมในการจัดการปัญหาและการทำงานเป็นทีม ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพื่อทำให้ทุกอย่างสำเร็จ” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมประชุมรับฟังการเล่าประสบการณ์และความประทับใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ผ่านมาจากหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่ครบเกษียณอายุราชการประจำปี 2567 โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมผู้ที่เกษียณอายุ ที่มีความทุ่มเทในการทำงาน มีความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและหน่วยงานและประเทศชาติ ทั้งนี้ นายกฯ มองว่าระบบราชการเป็นกลไกที่สำคัญอย่างมากในการพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งนโยบายหรือวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ ถ้าข้าราชการไม่ช่วยกัน ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ พร้อมกับได้เน้นย้ำเรื่องการใกล้ชิดกัน สามารถเข้ามาคุยกันได้ เพื่อพัฒนาเรื่องต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เพื่อประเทศและประชาชนต่อไป
“อยากให้ทุกคนทำลายกำแพงที่ว่า 'การคุยกันเป็นเรื่องยาก' ยุคนี้แล้วต้องคุยกันอย่างใกล้ชิด และเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและเข้มแข็ง และขอให้ช่วยสานต่อนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 10 นโยบายเร่งด่วน ขอให้ช่วยกันทำงานต่อ และขอให้กระทรวงต่าง ๆ หากมีเนื้อหาอะไรที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นมาก ที่ผ่านมาได้แบ่งหน้าที่ให้กับกระทรวงต่าง ๆ และรองนายกรัฐมนตรี ว่าสามารถให้สัมภาษณ์ในเนื้องานของที่กระทรวงทำได้เลย เพราะจะเข้าใจในส่วนงานที่ทำได้ดี ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถรับฟังในภาพรวม แต่ในรายละเอียดปลีกย่อยนั้น คนที่ทำงานหน้างานจริงจะสามารถตอบคำถามได้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนเข้าใจในส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว