"จิรายุ" เผย นายกฯ สั่งตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด กำชับเร่งสำรวจความเสียหาย-จ่ายเงินเยียวยา
25 ก.ย. 2567, 15:57
วันนี้ ( 25 ก.ย.67 ) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญ รองนายกฯ รัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่อำนวยการ สั่งการในศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยหารือร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และตัวแทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
นายจิรายุ เปิดเผยว่าศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รับนโยบายของนายกรัฐมนตรี และได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งปฏิบัติการในส่วนที่มีเหตุการณ์สำคัญ และขอให้อำนวยความสะดวก จัดทำบัญชี และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทันทีตามแนวทางที่กำหนดโดยไม่ต้องรอระยะเวลา โดยให้จังหวัดทยอยส่งข้อมูลมายัง ปภ. โดยเร็วตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด สำหรับเอกสารที่ใช้ยื่นเป็นหลักฐานในการขอรับเงินช่วยเหลือ ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมด้วยหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีเป็นบ้านพักอาศัยที่มีทะเบียนบ้าน) สัญญาเช่าบ้านหรือหนังสือรับรองการเช่าจาก อปท. (กรณีเป็นบ้านเช่า) หากเป็นกรณีอื่น อาทิ บ้านพักอาศัยประจำ แต่หากไม่มีทะเบียนบ้านจะต้องให้กำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมกับผู้นำชุมชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงนามรับรอง โดยขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้เปิดให้ทำบัตรประชาชนและออกทะเบียนบ้านใหม่โดยผู้ประสบภัยไม่ต้องแจ้งความโรงพักแล้วสามารถไปดำเนินการได้ที่อำเภออำเภอ สำนักงานเทศบาลหรือรถโมบายเคลื่อนที่ของกรมการปกครองส่วนกรณีประชาชนที่ยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคาร สามารถไปลงทะเบียนพร้อมเพย์ได้ทุกธนาคาร โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ทางด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ดำเนินการระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ประชาชนทุกคนจะต้องได้รับการแจ้งเตือนภัย ซึ่งทาง ดีอี ได้มีการประชุมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเริ่มดำเนินการเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) ได้มีการแจ้งเตือนภัย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อส่งต่อไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ รวมถึงส่งไปยังกรมประชาสัมพันธ์ ทำให้ 4 ตำบลในอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง และจังหวัดอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมการรับมือ ได้รับทราบข้อมูลซึ่งเป็นการเตือนภัยในระดับ 3 เป็นการแจ้งให้เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนทั้งแบบ SMS รายการประกาศผ่านวิทยุ ของกรมประชาสัมพันธ์ จะส่งถึงประชาชนโดยตรง