เมื่อเวลา 12.30น.วันที่ 5ตค.2567 พล.ต.ต.สมชาย  ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สุรพงษ์  ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ให้สนธิกำลังตำรวจสืบสวนภาค8และตำรวจสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช นำหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปทำการตรวจค้นบ้านพักของจำเลย 3 เป้าหมายที่ถูกศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับแล้วในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ในคดีสลายม็อบตากใบ หลังจากศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับจำเลย9คนในคดีนี้และจะหมดอายุความในวันที่ 25ตค.2567 หรือเหลืออีก20วันก็จะหมดอายุความนั้น
โดยเป้าหมายแรก พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้นำกำลังตำรวจสืบสวนภาค8,ตำรวจสืบสวนจังหวัด พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่2 ซอยปิยะบุตร ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวิชม ทองสงค์ อดีต ผวจ.นราธิวาส จำเลยที่ 9 ปรากฏว่าไม่พบตัวนายวิชม แต่อย่างใด พบเพียงลูกสาวและคนดูแลบ้าน ได้นำเข้าตรวจค้นห้องพักต่างๆอย่างละเอียดทุกห้องก็ไม่พบตัวนายวิชมฯแต่อย่างใด ทางตำรวจจึงทำบันทึกผลการตรวจค้นต่อไปว่าไม่พบตัวนายวิชมฯ

เป้าหมายที่ 2 พ.ต.อ.พิศิษฐ์   วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำหมายค้นพร้อมกำลังตำรวจสืบสวนภาค8และสืบสวนจังหวัดเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 156/1 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของ จสอ.ปิติ ญาณแก้ว ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี แต่ก็ไม่พบตัวเช่นเดียวกัน

เป้าหมายที่ 3 เข้าตรวจค้นบ้านพักในค่ายทหาร ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านพักของ ร.ท.ฤทธิรงค์  พรหมฤทธิ์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี ในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น แต่ไม่พบตัว ร.ท.ฤทธิรงค์  พรหมฤทธิ์ แต่อย่างใด จึงเดินทางกลับ

พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เผยว่าแม้วันนี้จะไม่พบตัวจำเลยที่ถูกออกหมายจับทั้ง3คนในวันนี้ แต่ทางตำรวจสืบสวนนครศรีธรรมราชและตำรวจสืบสวนภาค8 จะได้เร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวจำเลยทั้ง3คนที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีส่งศาลจังหวัดนราธิวาสและศาลจังหวัดปัตตานีให้ได้โดยเร็วต่อไป แม้จะเหลืออายุความแค่20วันก็ตาม

  กรณี น.ส.ฟาตีฮะห์ ปะจูกูเล็ง กับพวกรวม ๔๘ คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี กับพวกรวม ๙ คน ในความผิดต่อชีวิตและเสรีภาพ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่อำเภอตากใบ เมื่อตุลาคม ๒๕๔๗ นั้น ตามคดีหมายเลขดำที่ อ๕๗๘/๒๕๖๗ ศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายถึง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้จับตัวนายวิชม ทองสงค์ จำเลยที่ ๙ ตามหมายจับศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ ๑๖๘/๒๕๖๗ ลงลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ 

กรณีหมายจับนายปิติ  (ภูมิลำเนานครศรีธรรมราช) ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ตามหมายจับ ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.๕๑๕/๒๕๖๗ ลง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ เพื่อนำส่ง สภ.หนองจิก

 กรณีหมายจับ ร.ท.ฤทธิรงค์  (ภูมิลำเนานครศรีธรรมราช) ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น ตามหมายจับ ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.๕๒๕/๒๕๖๗ ลง ๓ ต.ค.๒๕๖๗ เพื่อนำส่ง สภ.หนองจิก

 หลังได้รับหมายจับ ศาลจังหวัดนราธิวาส และศาลจังหวัดปัตตานี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมออกคำสั่งให้ทำการสืบสวนติดตามจับตัวบุคคลดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย 
  ปัจจุบันเชื่อว่าบ้านเลขที่ดังกล่าว เป็นที่หลบหนีของบุคคลที่มีหมายให้จับ จึงยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว ในวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗  เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น. โดยบูรณาการกำลังของ บก.สส.ภ.๘ และ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราชผลการปฏิบัติ ไม่พบตัวบุคคลตามหมายจับทั้ง ๓ ราย แต่อย่างใด จะได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมต่อไป