จากกรณีเป็นข่าวดังที่ บ้านเลขที่ 142 บ้านรกฟ้า หมู่ 11 ตำบลด่านช้าง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา พบว่าบริเวณใต้ต้นมะม่วงที่ปลูกอยู่ในสวนข้างบ้านได้มีน้ำผุดออกมาคล้ายตาน้ำ โดยมีน้ำไหลอยู่ตลอดเวลา โดยชาวบ้านเปิดเผยว่าบางช่วงจะมีฟองน้ำผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในวันพระ โดยเบื้องต้นมีการล้อมรอยเอาไว้ด้วยรั้วไม้ไผ่ มีการนำเสื่อมาปูพร้อมกระถางธูปและโต๊ะวางดอกไม้เซ่นไหว้

 

มีผู้คนที่ทราบข่าวเดินทางเข้ามารับชมความแปลกของธรรมชาติและตักน้ำใส่ภาชนะ เพื่อให้ผู้ที่มีความเชื่อนำกลับไปกราบไหว้บูชาและตักน้ำไปดื่ม บางคนก็นำไปทาตามจุดที่เจ็บป่วยตามความเชื่อ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาการไหว้บูชา และขอตักน้ำเอาไปทาน บางรายก็เอาไปทาตามจุดที่เจ็บปวด เช่นเข้า หลัง และขา

จากการสอบถามนางกรรณิการ์ พากเพียร ผู้พบบ่อน้ำผุดคนแรกเปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ ก็พบว่าบริเวณใต้ต้นมะม่วงดังกล่าวมีน้ำซึมออกมา ตอนแรกคิดว่าต่อประปาแตกจึงได้ทำการขุดหาแต่ปรากฏว่ายิ่งขุดยิ่งลึกน้ำยิ่งไหลแรง จึงใช้ไม้ไผ่ความยาวกว่า 2 เมตรทิ่มลงไปก็พบว่ายังลงไปไม่ถึงก้นหลุม เลยทดลองปิดวาล์วน้ำเป็นเวลา 4 วันแต่น้ำก็ไม่หยุดไหล จึงได้สอบถามป้าเจ้าของบ้านทราบว่าบริเวณดังกล่าวไม่ได้มีต่อท่อประปาไว้แต่อย่างใดเนื่องจากท่อได้ต่อได้อีกฝั่งบ้าน

 

ก่อนหน้าจะพบบ่อน้ำดังกล่าวพี่สาวที่ทำงานอยู่จังหวัดกระบี่ได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าที่บ้านมีเหตุอะไรหรือไม่เนื่องจากฝันเห็นว่ามีงูจำนวน 7 ตัวมาขดอยู่รอบบ้าน จึงไปสอบถามหมอดูทราบว่า เป็นพญานาคขอใช้สถานที่ในการคายน้ำออกจากถ้ำใต้ดินเมื่อหมดบุญต่อกันแล้วก็จะไปเองไม่ต้องทำอะไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นความเชื่อและวิจารณญาณส่วนบุคคลที่ไม่สามารถก้าวล่วงกันได้

 

ซึ่งตอนนี้ ก็มีน้ำไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในแต่ละวันคนที่ทราบข่าวจะเดินทางเข้ามาชมความแปลกของธรรมชาติ และตักน้ำใส่ภาชนะนำกลับไปกราบไหว้บูชา ขณะที่บางคนนำไปทาตามร่างกายบริเวณที่มีอาการเจ็บป่วยตามความเชื่อ ส่วนบางรายตักน้ำกลับไปดื่มกิน กระทั่งเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำ พบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อโรคและมีฤทธิ์เป็นกรด อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ แต่ให้รอผลการพิสูจน์ความปลอดภัยจากห้องปฏิบัติการเสียก่อน พร้อมสั่งห้ามประชาชนดื่มกินน้ำดังกล่าวแล้วนั้น

ล่าสุด ทางสาธารณสุขอำเภอบัวใหญ่ ได้นำป้ายมาติดมีข้อความให้ระวังน้ำผุดมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค มีความเป็นกรด ห้ามนำไปดื่มกิน นำไปอาบ หรือทาตามตัวโดยเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดทำให้ถึงชีวิตได้

โดยนำป้ายไปติดไว้บริเวณด้านข้างบ่อตาน้ำผุด เพื่อให้ประชาชนเห็นได้ชัดเจน พร้อมกับประสานผู้นำหมู่บ้านจัดการจราจร เนื่องจากแต่ละวันมีประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลกันมา รวมถึงจำกัดเวลาในการเข้าชม เนื่องจากบ่อตาน้ำผุดนี้อยู่ภายในบริเวณบ้าน เกรงจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาก่อเหตุได้

นายศรีทน ไชยสง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรกฟ้า ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปที่ตาน้ำผุด ปรากฏว่า มีภาพลักษณะคล้ายหงอนพญานาคสีแดงปรากฏขึ้น พร้อมกับฟองอากาศที่ผุดขึ้นมาคล้ายพญานาคเล่นน้ำ นำมาซึ่งความอัศจรรย์ใจให้กับชาวบ้านที่เดินทางมาชมอิทธิฤทธิ์ของพ่อปู่พญานาคเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เลข 142 หรือ 55 ซึ่งเป็นเลขที่บ้านที่เกิดบ่อตาน้ำผุดขึ้นมา ขายดีไปทั่วพื้นที่ในเวลานี้