วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากวัดบางแขม ต. บางแขม อ.เมืองนครปฐม ทราบว่ามีชาวบ้านในเขตตำบลบางแขม และใกล้เคียงต่างเดินทางมาขอโชคลาภเลขเด็ดกันอย่างไม่ขาดสาย ที่ บริเวณด้านหลังวิหารหลวงพ่อโต โบสถ์มหาอุตม์ ภายในวัดบางแขม เนื่องจากมีต้นพิกุลโบราณขนาดใหญ่ ที่มีอายุนานกว่า 200 ปี เมื่อผู้สื่อข่าวเดินไปถึงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากกำลังจุดธูปไหว้ต้นพิกุลขนาดใหญ่ดังกล่าว โดยจุดธูปและเขย่าเซียมซีเพื่อขอเลขเด็ดกันตามความเชื่อ บางรายนำผ้า 3 สีมา ผูกไว้ที่ลำต้น พร้อมกับนำแผ่นทองปิดไว้ที่บริเวณลำต้นพิกุลโบราณ ที่มีอายุกว่า 200 ปี 

ขณะเดียวกันทางด้านนางสำเภา ทองมา อายุ 50 ปี หนึ่งในผู้ที่เดินทางมาขอพรขอโชคลาภเลขเด็ดที่บริเวณต้นพิกุลทองโบราณแห่งนี้ ได้เขย่า ได้หมายจำนวน 3 ไม้เป็นหมายเลข 7 -22-8 และนางสาวรดา ฉิมกล่อมอายุ 45 ปี ได้เขย่าเซียมซีไม้แดงเป็นเลข 11-  3-1  ซึ่งทั้งสองเผยว่าตั้งใจมาขอโชคลาภเลขเด็ดกันอยู่แล้วในช่วงใกล้วันหวยออก เนื่องจากต้นพิกุลโบราณนี้มีขนาดอายุกว่า 200 ปี ถือเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของวัดบางแขม และเป็นที่น่าแปลกอย่างยิ่ง คือลักษณะมีเพียงเปลือกภายในไม่มีไส้ใน ลักษณะลำคันกลวง ผ่าครึ่ง 

จากการสอบถามร้อยตรีสมควร  อายุ 67 ปี ไวยาวัจกรของวัดบางแขม ได้เปิดเผยว่า สำหรับต้นพิกุลต้นนี้ ตนเองเห็นมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือยังเป็นเด็กน้อย คาดว่าต้นพิกุลนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์พร้อมกับโบสถ์มหาอุดตม์ของวัดบางแขม ที่มีอายุกว่า 200 ปีเช่นกัน สำหรับต้นพิกุลนี้มีขนาดความสูงกว่า 10 เมตร แต่สิ่งที่น่าแปลกคือลำต้นกลวง. มีเพียงเปลือกไม้ เหลือเพียงครึ่งซีก แต่ต้นไม้ยังอุดมสมบูรณ์และแข็งแรง จะเห็นจะสังเกตได้จากใบไม้ที่เขียวขจีรวมไปถึงดอกพิกุลที่ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวนไปทั่วบริเวณ และที่สำคัญต้นไม้ต้นดังกล่าวถูกลมพัดพา จนโอนเอนไปตามกาลเวลา จะล้มแต่ยังไม่ล้ม แต่กลับมีสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นอย่างยิ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของต้นนี้ เนื่องจากเป็นต้นเก่าแก่โบราณ หลายคนหลายรุ่นที่เข้ามาขอพรขอโชคลาภเลขเด็ดจากต้นพิกุล เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเทวดาปกปักรักษาอยู่ ส่วนใหญ่ในช่วงใกล้วันหวยออก จะมาจุดธูปขอพรและเขย่าเซียมซีเสี่ยงแซ่ไปทั่วบริเวณ ในวันนี้ก็เช่นกันจะเห็นได้จากบรรยากาศที่ชาวบ้านเดินทางขอเลขเด็ดดังกล่าว จะเห็นได้ว่าจากความเชื่อแล้ว ชาวบ้านจะเห็นว่าเป็นต้นไม้แปลก แต่หากมองไปตามหลักทางข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้. อาจมองไปอีกในเรื่องของต้นไม้ที่มีลักษณะแกนผิดรูปร่างหรือถูกปลวกกินจนกลวงนั่นเอง