ตำรวจ-ปกครองเข้ม "แก๊งวัยรุ่นเมียนมา" เหิมชิงหมวกกันน็อคนักเรียน-ยกพวกทำร้ายอริไทย
13 ต.ค. 2567, 11:33
13 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเหตุการณ์วัยรุ่นโจ๋ชาวพม่ากว่า10 คน”เหิมเกริม”ตั้งแก๊งตบหมวกกันน็อคไล่ควบอริไทยพื้นที่ อ.บางสะพาน จนเป็นกระแสข่าวไปเมื่อวันที่ 11 ต.ค.67 ที่ผ่านมานั้น กลายเป็นประเด็นร้อนระหว่างนายจ้างบางรายที่ให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมา(พม่า)ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการให้ที่อาศัยพักพิงหวังเพียงแค่แรกกับการจ่ายค่าจ้างแรงงานที่ถูกกว่ารัฐบาลกำหนด และหากหน่วยงานเกี่ยวข้องไม่เข้มงวดกวดขันตั้งจุดตรวจตรา เฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อยกันอย่างจริงจัง ก็อาจเกิดปัญหาตามมาอีกเช่นเคย เนื่องจากแก๊งวัยรุ่นโจ๋กลุ่มดังกล่าวมีเครือข่ายผ่านโซเชียลอยู่หลายท้องที่ ซึ่งหลังก่อเหตุก็มักจะเข้าไป”แฮชแท็ก”ในโซเชียล ท้าทายอำนาจรัฐ ข่มขู่ชาวบ้านสร้างเนื้อหาทำนอง”ฉันจะกลับมาทำซ้ำเหมือนเดิมบ้าง”จนชาวบ้านบางรายต้องนำหลังฐานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพิ่มหลังเกิดเหตุการณ์ และเมื่อมีการกระทำผิดกฎหมายกลุ่มพวกนี้ก็จะหลบหนีข้ามฝั่งกลับประเทศตนเอง เนื่องจากหมู่บ้านห้วยตะเคียนหลายหมู่ มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีช่องทางธรรมชาติเข้าออกได้หลายช่องทาง
จากเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดวันที่ 12 ต.ค.67 พล.ต.ต ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รรท.ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิริ ราชรักษา ผกก. สภ.ธงชัย, พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผกก.สืบสวน ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกำลังออกตรวจตราในพื้นที่หมู่ที่ ๑๒ ต.ชัยเกษม และพื้นที่ไกล้เคียง
รวมทั้งตั้งด่านตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเชิญชาวบ้านร่วมประชุมหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น และขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบเจอหรือต้องสงสัยว่าแรงงานชาวพม่าเข้ามาทำงานถูกต้องหรือไม่ ขอให้แจ้งผู้นำชุมชนแต่ละหมู่ จะนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ รวมทั้งนายจ้างบางรายหากพบมีการฝ่าฝืนกฎหมาย โดยการให้ที่พักพิงกับแรงงานไม่ถูกต้องอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้
ด้าน พ.ต.อ เอกราช หุ่นงาม ที่ปรึกษาสมาชิกวุฒิสภา จ.ประจวบฯกล่าวว่า ล่าสุดได้แนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านนำลูกบ้านที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นโจ๋ชาวเมียนมาเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ธงชัย เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะติดตามจนกว่าคดีจะจบ เนื่องจากตนได้รับมอบหมายจากท่าน สว.ให้ติดตามความคืบหน้า ไม่ใช่แค่ตั้งด่านตรวจสอบช่องทางเข้าออกเพียงเท่านั้น เพราะในพื้นที่ห่างไกลมีทั้งช่องทางธรรมชาติอีกมากมาย ที่ลักลอบเข้าออกได้โดยเจ้าหน้าที่อาจไม่ทราบ จึงต้องเก็บข้อมูลในพื้นที่ให้ครอบคลุมว่าเส้นทางการหลบหนีเข้ามาอยู่จุดไหนบ้าง พ.ต.อ.เอกราช กล่าว
พ.ต.อ.ศิริ ราชรักษา ผู้กำกับการ สภ.ธงชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รับแจ้งความเมื่อวันที่ 24 กันยายน67ได้ดำเนินคดีตามหลักฐานประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหาก็มีคนที่ก่อเหตุที่ชัดเจนแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ 2 คนตามพยานหลักฐานได้มีการคัดค้านการประกันตัวแล้วก็ส่งฝากขังไปที่ศาล 2 คน ส่วนที่เหลือพยานหลักฐานก็เป็นความผิดลหุโทษซึ่งเดี๋ยวเราจะรอให้ส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเพราะว่าเข้าข่ายความผิดอื่นๆหรือไม่ วันนั้นได้ทำประวัติและเรียกผู้ปกครองเรียกนายจ้างมาพิสูจน์ตัวตนแล้วก็ดูบัตรส่วนคนที่ไม่มีบัตรเราจะให้ทางฝ่ายปกครองดูว่ามีการยกเว้นหรือการเข้าเมืองมาถูกต้องมากน้อยแค่ไหนยังไง ส่วน 2 คนที่ก่อเหตุถ้าคดีสิ้นสุดแล้วเราก็จะเสนอผลักดันต่อไป
ส่วนเรื่องของการรวมกลุ่มในส่วนที่ปล่อยตัวไป 9 คนนั้นได้ให้พนักงานสอบสวนติดต่อว่ายังอยู่ที่เดิมหรือไม่ยังไงก็สามารถติดต่อได้หมด ด้านการป้องกันของตำรวจก็ให้ฝ่ายสืบสวนฝ่ายป้องกันปราบปรามหาข่าวแล้วก็ตรวจลาดตระเวนในพื้นที่ร่วมกับทางอำเภอ/กำนัน/ผู้ใหญ่/ฝ่ายปกครองร่วมกันบูรณาการตั้งด่านตระเวนตรวจสอบพื้นที่อย่างเข้มข้นในช่วงนี้และต่อไป พ.ต.อ.ศิริ ราชรักษา ผู้กำกับการ สภ.ธงชัย กล่าว
////////////////////////////////
Recommend News
MOST POPULAR
