คืบหน้า!! คดีแอบใส่ยาฆ่าหญ้าในถังน้ำ วัดหนองเข้ ล่าสุด!! ผู้การฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
31 ต.ค. 2562, 15:49
วันที่ 31 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานบรรยากาศ ที่บริเวณวัดหนองเข้ หมู่ที่ 12 ตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี ภายหลังจากที่เกิดเหตุมีการลักลอบใส่ยาฆ่าหญ้า ลงไปภายในถังน้ำดื่มและน้ำใช้ของภายในวัด จนทำให้มีพระสงฆ์และประชาชนที่เข้ามาใช้น้ำภายในวัดได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยเบื้องต้นเช้าวันนี้ ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พลตำรวจตรีพันธุ์เทพ ถึงทรัพย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอสว่างอารมณ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าอาวาสวัดหนองเข้ เป็นผู้ให้ข้อมูลและนำดูถังน้ำจุดที่เกิดเหตุดังกล่าว พร้อมเดินเข้าดูจุดที่เก็บไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นไม้ที่เคยถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2559 ซึ่งทางพลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ได้ลงเข้าจับกุมและถูกดำเนินคดีจำคุก แต่ได้มีการขออุทธรณ์รอลงอาญา ก่อนเข้าตรวจสอบกุฏิของเจ้าอาวาสที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
โดยทางด้าน พลตำรวจตรีพันธุ์เทพ ได้กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบยังที่เกิดจากจุดถังน้ำที่ส่งน้ำดื่มใช้ภายในวัด พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมและตัวบุคคลทั้งพระและประชาชนที่กินใช้น้ำอย่างละเอียด รวมถึงอาจจะมีการย้อนดูถึงคดีไม้ที่ทางเจ้าอาวาสเคยถูกดำเนินคดีด้วยว่าจะเกี่ยวโยงถึงกันด้วยหรือไม่ ด้านผลการตรวจของน้ำนั้นยังต้องรอผลตรวจออกมาในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ว่าจะมีสารยาฆ่าหญ้าจริงหรือไม่ หรือมีสารอะไรปนเปื้อนอยู่กันแน่ พร้อมจัดทีมเจ้าหน้าที่เข้ามาคอยดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับทางวัดด้วย
โดยทางพระครูพิศาลอุทัยกิจ เจ้าอาวาสวัดหนองเข้ กล่าวว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วนั้นก็รู้สึกดีและโล่งใจมากขึ้น ด้านผลพิสูจน์ของน้ำนั้นก็รอให้เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้นทางตนเองก็ไม่ได้กลัวอะไรมากเพราะที่ผ่านมาก็ระวังตัวอยู่แล้ว แต่พอมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลในช่วงนี้ก็สบายใจมากขึ้น พระครูพิศาลอุทัยกิจ กล่าว
ทางด้านพระอาจารย์บุญเรือน หรือ พระครูอมรโกสิพิพัฒน์ ได้พาทางผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี เข้าดูกุฏิเจ้าอาวาสและห้องรับรอง พร้อมระบุว่า ทางวัดนั้นมีปัญหากับทางกรรมการวัดมานาน ซึ่งก็มีการหาเรื่องกันเรื่อยๆ มา โดยเฉพาะอำนาจเก่า ใครจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็น อบต. ลักษณะใครจะเป็นผู้กล้าออกมาพูดในการเอาเงินวัดไปใช้ในลักษณะของการหาเสียง คือทำกันอย่างนี้มาโดยประมาณเอาเงินวัดไปเลี้ยง ส่วนเรื่องทางวัดจะไปเสียผลประโยชน์อะไรกับใครคงมีแต่ที่พวกผู้นำท้องถิ่นมีส่วนได้ส่วนเสียได้เก็บเงินวัด เช่น ผ้าป่า กฐิน จะมา ก็มีการขอค่าหมูค่าไก่กินกัน ต่อมาทางเขตก็ได้ให้มีการบริหารเงินวัดด้วยการเข้าบัญชี ซึ่งทางวัดก็ทำตามระเบียบ ซึ่งก็อาจทำให้ผู้ที่เสียผลประโยชน์หรือพวกที่ทำอยู่เดิมไม่พอใจได้
"ด้าน นายประสิทธิ์ ศรีวิเชียร อายุ 72 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้ทดลองนำน้ำในถังดังกล่าวเข้าไปล้างหน้า และมั่นใจว่าในน้ำนั้นมียาฆ่าหญ้าปนเปื้อนอยู่จริงๆ และอาจจะมีน้ำกรดผสมอยู่ด้วย เนื่องจากพอนำไปล้างหน้าแล้วมีอาการแสบร้อนทันที ประกอบกับตนเองนั้นฉีดยาฆ่าหญ้าอยู่แล้วจึงมั่นใจว่าต้องเป็นยาฆ่าหญ้าอย่างแน่นอน" นายประสิทธิ์ กล่าว
"ด้านนางพวงเพ็ชร พูลเกิด อายุ 53 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านที่มาช่วยงานวัดและได้อาบน้ำดังกล่าว จนเกิดตุ่มแผลพุพองตามตัว เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนเองนั้นได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำหญิงของวัด โดยพออาบไปได้ 2 ขัน แล้วรู้สึกแสบร้อนตามผิวหนัง จากนั้นจึงไปเอาน้ำที่ใช้ดื่มกินมาอาบล้างออก และไม่ได้ไปหาหมอทันที จนกระทั่งเกิดมีตุ่มแผลขึ้นตามตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไปหาหมอเพื่อรักษาตัวดังกล่าว" นางพวงเพ็ชร กล่าว
จากนั้นทางด้าน นางรุ่งเพชร บุญเมือง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในละแวกนี้ก็ได้พาเดินไปดูน้ำในห้องน้ำของวัด โดยเปิดน้ำให้ดูว่าน้ำนั้นมีกลิ่นสารพิษออกมาอย่างรุนแรง และมั่นใจว่าเป็นน้ำยาฆ่ายาหญ้า ไกลโฟเสต อย่างแน่นอน
โดยต่อมาทาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานีพร้อมทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานีและเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสว่างอารมณ์ได้ลงพื้นที่เข้าพบกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 และคณะกรรมการวัดหนองเข้เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม จากทั้งทางผู้ใหญ่บ้านคณะกรรมการวัดตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ซึ่งทางด้าน นายสุวัฒน์ เขม่นเขตการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านหนองเข้ กล่าวว่า ทางตนเองรวมไปถึงคณะกรรมการวัดและชาวบ้านในพื้นที่นั้นไม่ได้มีการทะเลาะหรือมีปัญหาใดๆ กับทางวัด รวมไปถึงในเรื่องของการเงินของทางวัดนั้นทางตนเองและคณะกรรมการวัดก็ไม่ได้มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ กับทางวัดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งทางวัดจะเป็นคนบริหารจัดการเงินเองจะมีส่วนที่ทำวัตรนั้นมีงานประจำปีบุญกฐิน ผ้าป่า คณะกรรมการวัดก็ได้มีการเข้าไปช่วยงานตามปกติแต่ไม่ได้มีการเข้าไปยุ่งเรื่องเงินของทางวัดแต่อย่างใดและมั่นใจว่า ชาวบ้านหรือคนในพื้นที่นั้นไม่มีการเข้าไปวางยาฆ่าหญ้าหรือทำอันตรายใดๆ กับพระทั้งวัดอย่างแน่นอนซึ่งหากให้มีการสาบานก็ยินยอมที่จะร่วมสาบานได้อย่างเต็มใจเพราะมั่นใจว่าคณะกรรมการวัดและชาวบ้านไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวและหากทางวัดนั้นจะไปทะเลาะหรือมีปัญหาขัดแย้งกับใครก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นายสุวัตร กล่าว
ฝั่งทาง คณะกรรมการทั้ง 3 คน ซึ่งมี นายครอบ ขันการไร่ อายุ 60 ปี นายสายันต์ เขม่นเขตการณ์ อายุ 67 ปี นายสมาน เขม่นเขตรการ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นกรรมการวัดหนองเข้ได้กล่าวว่าทั้ง 3 คน นั้นเป็นกรรมการดูแลบริหารงานต่างๆ ของทางวัด มานานซึ่งก็ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้งหรือมีปัญหาใดๆ กับทางวัดโดยในส่วนของเรื่องการบริหารจัดการเงินนั้นทางพวกตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือบริหารจัดการเงินแต่อย่างใดมานานกว่า 20 ปีแล้ว หากมีช่วงงานวัดต่างๆ หรืองานบุญกฐินผ้าป่าก็ได้เข้าไปช่วยนับเงิน แต่เรื่องการนำเงินไปฝากนั้นหรือการบริหารค่าใช้จ่ายในวัดต่างๆ นั้นทางวัดก็เป็นคนบริหารจัดการเองไม่เคยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยแต่อย่างใด ทั้ง 3 กรรมการวัด กล่าว
ฝั่งทางด้านชาวบ้านโดยรอบวัดในพื้นที่ส่วนใหญ่ พบว่า ไม่ได้เข้าไปช่วยงานวัดหรือเข้าไปทำบุญภายในวัดนั้นก็มีอยู่เป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่ระบุว่าไม่ได้ทะเลาะหรือมีปัญหาใดๆ กับทางพระแต่เคยเกิดเรื่องต่างๆ ที่มีการโต้เถียงแล้วก็โต้แย้งกันจากทั้งคนที่อยู่ภายในวัดและทางพระก็เลยไม่ได้เข้าไปทำบุญภายในวัดดังกล่าวมานานก็ 2 ปีแล้วโดยเรียกได้ว่าปัจจุบันนี้ชาวบ้านแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งจะมีฝั่งที่ยังคงเดินทางเข้าไปทำบุญกับทางวัดและที่ไม่มีการเข้าไปทำบุญกับทางวัดแล้วมาเป็นระยะเวลานานอีกด้วยเช่นเดียวกัน คาดว่าประเด็นปัญหาดังกล่าวนั้นอาจจะมีในหลายด้านหลายๆ แง่มุม และอาจจะเกิดปัญหาเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานานอีกด้วย