ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.,พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.2 บก.ทล.,พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. โดยมี ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ,ร.ต.อ.พินัย บุญรัตน์ รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.,ร.ต.ต.โกศล ศรีพรม, ร.ต.ท.กุศล ยะฝั่น ร.ต.ต.ชรินทร์ อ้นมั่น, ร.ต.ต.พีรธรรม หนุนุรัตน์ รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.,ด.ต.ปกรณ์ สิทธิศักดิ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.ออกปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว

 

วันนี้ 19 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมโดยขับขี่รถวิทยุคันหมายเลข 2616 ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 81-82 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้พบรถนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน 2 กว-952 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะต้องสงสัยบรรทุกสิ่งของหนัก โดยสังเกตรถยนต์มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ สอดคล้องต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานต่างด้าว จึงได้ขับขี่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวในระยะประชิด และได้ใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟน เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดและได้ทำการตรวจค้นพบ ได้ร่วมกันจับกุมตัวคนขับ ทราบชื่อคือ นายใจ จารุกชนันต์ อายุ 48 ปี ที่อยู่ 2/16 ม. 4 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น ซึ่งก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายใจฯ(ผู้ต้องหาที่1)ดูจนเป็นที่พอใจ จึงได้ตรวจค้นตัว นายใจฯ(ผู้ต้องหาที่1)ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และได้ทำการตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฎว่าพบผู้ต้องหาที่ 2-15 นั่งอยู่ภายในรถบริเวณด้านหน้าและที่นั่งด้านหลังผู้ขับขี่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ต้องหาที่ 2-15 แสดงเอกสารประจำตัว ตรวจสอบไม่พบเอกสารยืนยันตัวตนที่ราชการออกให้ สอบถามผู้ต้องหาที่ 2-15 ไม่สามารถสื่อสารหรือพูดไทยได้ จึงได้ตรวจสอบเอกสารโดยละเอียด จาการตรวจสอบปรากฎว่าไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายการข่าว กกล.สุรสีห์, กอ.รมน.กาญจนบุรี, ตม.กาญจนบุรี ร่วมจับกุมดำเนินการขยายผลถึงเส้นทางการลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย

 

จากการสอบถาม นายใจ จารุกชนันต์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ไปรับผู้ต้องหาที่ 2-15 บริเวณริมทางหลวง หมายเลข 3272 ต.ห้วยเขย่ง อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับการว่าจ้างจากนายจือ ไม่ทราบนามสกุล ให้ไปรับผู้ต้องหาที่ 2-15 และจะนำไปส่งจุดนัดรับบริเวณบ่อลูกรังบริเวณ ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้รับค่าตอบแทน จำนวน 1,000 บาท (หากเสร็จสิ้นการขนย้ายบุคคลต่างด้าว) โดยผู้จ้างวานให้ขนย้ายบุคคลต่างด้าวในครั้งนี้ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่า ไม่ทราบว่าเป็นชายหรือหญิง จำนวนกี่คน และไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง จากการสอบถาม บุคคลต่างด้าว/ผู้ต้องหาที่ 1 โดยมี นายไอหลิว อาสาสมัครล่าม แปลภาษาเมียนมาฯ ในการสอบถาม จากนั้นจะมารับผู้ต้องหาที่ 2-15 เพื่อนำเข้าสู่พื้นที่ชั้นในต่อไปโดยไม่ทราบที่หมาย

 

พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. เปิดเผยว่า สำหรับทางหลวงเราทำงานทุกวันครับ จะเป็นวันหยุดหรือวันหยุดยาว คือเรามีการปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน คอยช่วยเหลือประชาชนที่มาท่องเที่ยวที่กาญ หลักก็คือนโยบายของผู้บัญชาการคือการป้องกันและปราบปราม ลักลอบต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และลักลอบขนสิ่งของผิดกฏหมาย เข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนยาว ของกาญมีทีมชุดใต้ดินวิเคราะห์รถเป้าหมายที่มีพฤติกรรมลักลอบขนต่างด้าวซึ่งเรามีข้อมูลทั้งของเราและของทหารที่ร่วมมือกันตะมาวิเคราะห์ดูเป้าไว้ วันนี้โชคดีที่ทางพฤติกรรมของการจับกุมเป็นความชะล่าใจของการขนประจำคิดว่าตำรวจคงไม่สนใจอะไรยิ่งเป็นวันหยุดงานยุ่งคงจะปล่อยผ่าน

 

ทางด้าน ร.ต.ต.พีรธรรม หนุนุรัตน์ รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนไทรโยค เล่าว่า ปกติวันนี้วันเสาร์เป็นวันหยุด เราออก ว.4 ตรวจปกติดูแลเส้นทางประชาชนที่มาท่องเที่ยว ปรากฏว่ารถคันเนี้ยวิ่งมาในลักษณะการบรรทุกหนัก หน้าลอย รถคันดังกล่าวขับแซงรถทางหลวง ไปในลักษณะไม่เร็วมาก เราสงสัยว่าบรรทุกสิ่งผิดกฏหมายหรือเปล่าจึงติดตามไปให้สัญญานให้รถคันนั้นหยุด เข้าไปสอบถามพบบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจึงทำการจับกุมนำมาส่ง สภ.ลาดหญ้า จำนวนต่างด้าว 14 คนๆ ขับ 1 คนรวม 15 คน ขับแบบเนียนๆ เหมือนนักท่องเที่ยวไปช้าๆ แต่เราสงสัยว่าทำไมบรรทุกหนักและติดฟิล์มดำมืด

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแจ้งให้ทุกคนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด จะต้องถูกจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ต้องหาที่1”ช่วยเหลือซ่อนเล้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาราชอานาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”ผู้ต้องหาที่2-15 กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม และได้นำผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.ลาดหญ้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป